รำลึกครบรอบ 1 ปีการจากไปของ
การร้องไม่ตรงจังหวะเพราะความเมามายในเพลง Back To Black ในการแสดงครั้งสุดท้ายของ เอมี ไวน์เฮาส์ เผยแพร่ไปทั่วโลก กลายเป็นภาพจำที่บดบังพรสวรรค์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับนักร้องสาว กระทั่ง BBC ได้นำการแสดงอันยอดเยี่ยมในเพลงเดียวกันที่เธอร้องเมื่อครั้งยังไม่ตกเป็นทาสสุราและยาเสพติด ช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของนักร้องสาวคนดังกลับมาทบทวนความทรงจำของแฟนเพลงในสารคดี The Day She Came to Dingle ที่ออกอากาศเพื่อรำลึก 1 ปีการจากไปของนักร้องสาว
The Day She Came to Dingle ย้อนรอยเมื่อครั้งที่ เอมี ไวน์เฮาส์ เดินทางมาเปิดการแสดงในโบสถ์เล็กๆ ในไอร์แลนด์เมื่อปี 2006 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลดนตรี Other Voices แม้มีผู้ชมเพียง 80 คน และดนตรีสนับสนุนเพียงกีตาร์และเบส แต่กลับเป็นโอกาสให้เธอได้ใช้เสียงร้องอันทรงพลังสะกดผู้ฟังในวันนั้นได้อย่างอยู่หมัด
พรสวรรค์ของเอมี ไวน์เฮาส์ฉายแสงมาตั้งแต่อายุ 16 ปี เมื่อครั้งต้องร้องเพลงแทนให้กับวง National Youth Jazz Orchestra ความสามารถในการฟังอันเกิดจากการเติบโตในครอบครัวที่รักในเสียงเพลง ช่วยพัฒนาการใช้หูสำหรับการอิมโพรไวส์ และทำให้การแสดงมีความแตกต่างกันไปทุกครั้ง
เสน่ห์ในบทเพลงของเอมี ไวน์เฮาส์คือเนื้อหาที่เปรียบดังอัตชีวประวัติ เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ จนถึงบาดแผลในชีวิตกลายเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเพลง ตั้งแต่ปัญหาครอบครัวในชุดแรก จนถึงชีวิตรักที่ไม่ราบรื่นในงานมาสเตอร์พิชอย่าง Back To Black ซึ่งเธอกล่าวว่าไม่ได้เขียนเพลงเพราะแค่อยากจะร้อง แต่เนื้อเพลงทั้งหมดมาจากปัญหาที่เผชิญและความพยายามเอาชนะมันให้ได้
ฉันอยากให้ผู้คนได้ฟังเสียงของฉันและใช้เวลา 5 นาทีนั้นลืมปัญหาในชีวิต คือความปรารถนาที่เอมี ไวน์เฮาส์เคยตั้งใจไว้ตั้งแต่อายุ 12 ปี วันนี้ผู้คนมากมายที่เคยประทับใจจากเสียงร้องของเธอได้ร่วมกันมาไว้อาลัย 1 ปีแห่งการจากไปที่บ้านพักของนักร้องสาว โดยแฟนเพลงกล่าวว่าการจากไปของเอมี ไวน์เฮาส์ทำให้ผู้คนตระหนักถึงภัยของยาเสพติด นำไปสู่การก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเยาวชนผู้เป็นทาสยาเสพติดในนามของเธอ ซึ่งแสดงให้เป็นว่านักร้องสาวยังคงมีอิทธิพลต่อชีวิตผู้คนอีกมากมาย แม้ตัวเธอจะไม่อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว