ความงามของสวนดอกไม้โมเนต์ที่จัดแสดงกลางนิวยอร์ก
ภาพวาดสีสันสวยงาม เลียนแบบความสดใสที่ธรรมชาติมอบไว้กับหมู่มวลดอกไม้ คือผลงานแนวจิตรกรรมภูมิทัศน์ที่สร้างชื่อให้กับ โคลด โมเนต์ จิตรกรแถวหน้า แนวอิมเพรสชันนิซม์ ผู้ใช้เวลา 40 ปีสุดท้ายของชีวิต สร้างสรรค์ภาพวาดที่ได้แรงบรรดาลใจมาจากสวนพฤกษชาติ และบึงบัวบริเวณบ้านพัก ที่เขาปลูกไว้ในเมืองจิแวร์นีย์ ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส
ทุกวันนี้สถานที่ดังกล่าวกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เมื่อมีผู้รักศิลปะทั่วโลกเดินทางมาที่นี่ปีละกว่า 500,000 คน เพื่อชมสวนดอกไม้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพอันโด่งดังของศิลปินใหญ่ ผู้เปลี่ยนสวนครัวธรรมดาให้กลายเป็นสวนพฤกษชาติ แต่งแต้มด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ แตกต่างด้วยสีสัน และขนาดให้มิติที่หลากหลายด้านความตื้นลึกในการวาด โดยมีบึงบัว และสะพานข้ามบึงสไตล์ญี่ปุ่นที่เขาต่อเติมภายหลังเป็นจุดที่นัก ท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด
ความงดงามของจิแวร์นีย์ สร้างแรงบันดาลใจให้ พอล ทักเกอร์ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ จัดการจำลองสวนดังกล่าวให้มาอยู่ในกลางนครนิวยอร์ก อันเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการศิลปะ Monet's Garden เพื่อให้คนที่ไม่มีโอกาสได้ไปเยือนฝรั่งเศสได้ชื่นชมความงามของสวนดอกไม้อัน โด่งดัง
โมเนตส์ การ์เดน (Monet's Garden) ร่วมสร้างสรรค์โดย สก็อต ปาร์ค นักออกแบบฉากละครเวทีรางวัลโทนี อวอร์ดส์ ที่จำลององค์ประกอบหลายอย่างให้เหมือนกับสวนต้นแบบมากที่สุด ตั้งแต่โครงไม้ระแนงที่ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี ที่นำสู่ทางเข้าบ้านจำลองของโมเนต์ที่คุ้นตาด้วยกำแพงสีชมพู และบานเกล็ดหน้าต่างสีเขียว บึงบัวอันโด่งดังมีการจำลองสะพานข้ามสไตล์ญี่ปุ่น และนำดอกบัวพันธุ์เดียวกับ ที่โมเนต์ปลูกมาเพาะพันธุ์ไว้ที่นี่ โดยผลัดเปลี่ยนดอกไม้ที่จัดแสดงไปตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง
ภายในงานนอกจากจะมีภาพวาดดอกไอริส 2 ชิ้นของโมเนต์ที่ไม่เคยจัดแสดงในสหรัฐฯ มาก่อน ยังได้นำจานสีของแท้ที่โมเนต์เคยใช้ระหว่างที่อาศัยอยู่ในจิแวร์นีย์ เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสที่มาของภาพวาดอันล้ำค่าของยอดศิลปินชาวฝรั่งเศสได้ อย่างสมบูรณ์ที่สุด