กสท.เล็งใช้ฐานลูกค้า 18 ล้านรายเป็นหลักประกันขอใช้คลื่น 1800 เมกกะเฮิรทซ์ต่อหลังหมดสัมปทาน
นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) หรือ CAT เปิดเผยว่ากสทได้เตรียมแผนรองรับรองรับการให้บริการโทรศัพท์มือถือหลังสัญญาสัมปทานมือถือสิ้นสุดโดยอันดับแรกจะต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการอนุญาตต่อกสทช.ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ว่าด้วยเรื่องหลักเกณฑ์และระยะเวลาการแจ้งรายละเอียดที่ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่หรือใช้ประโยชน์คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม2555 ภายในเดือนสิงหาคมนี้
นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า กรณีที่ กสท เตรียมขอใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิตรซ์ (MHz)ต่อไปหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในเดือนกันยายน ปี56 โทรศัพท์มือถือระหว่างกสท กับบริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ทั้งนี้ กสท ต้องแจ้งรายละเอียดให้กสทช.รับทราบเช่นกันถึงเหตุแห่งความจำเป็นที่ต้องใช้คลื่นความถี่ดังกล่าวต่อไป เนื่องจากปัจจุบัน กสท มีผู้ใช้บริการมากกว่า18 ล้านรายที่ยังใช้บริการอยู่
“กสท ก็ต้องชี้แจงเหตุแห่งความจำเป็นในการใช้คลื่นความถี่ต่อไปตามระยะเวลาการได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่จะสิ้นสุดในปี 2568 นั้น เพราะ กสท มีลูกค้าที่ใช้บริการอยู่ในระบบกว่า 18 ล้านราย หากลูกค้าในกลุ่มนี้ต้องย้ายกะทันหัน จะเกิดเหตุวุ่นวายแน่นอนฉะนั้นต้องสร้างความชัดเจน โดยขณะนี้ก็ได้ส่งสัญญาณไปยังคู่สัญญาสัมปทานแล้วว่าลูกค้าภายใต้สัญญาสัมปทานนั้น เป็นของกสท ตามสัญญา”นายกิตติศักดิ์ กล่าว
นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ความคืบหน้าการแก้ไขสัญญาการทำสัญญาร่วมธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่3จี(เอชเอสพีเอ)บนคลื่นความถี่ 850 เมกกะเฮิรทซ์ระหว่าง กสท กับ กลุ่มบริษัท ทรูคอร์ปเรชั่น จำกัด(มหาชน) ซึ่งจากกรณีล่าสุดทางที่ทางกลุ่มบริษัททรู ไม่ยอมแก้ไขสัญญาเห็นว่าเป็นกลไกปกติของแต่ละหน่วยงานในการพยายามเจรจาให้ได้ประโยชน์สูงสุดอย่างไรก็ตามขณะนี้บอร์ด กสท กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาการแก้ไขสัญญาใน 3 แนวทางด้วยกันประกอบด้วย 1.ทำสัญญาใหม่แนบท้ายต่อสัญญาเดิม2.แก้ไขสัญญาเดิม และ3.ยกเลิกสัญญาเดิมทั้งฉบับแล้วทำสัญญาใหม่ขึ้นมาคาดจะเห็นความคืบหน้าในการพิจารณาเลือก 1 ใน 3 แนวทางดังกล่าวอีกครั้ง ในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไป ในวันที่ 15 สิงหาคม