ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรียังใช้โครงสร้างเดิมในการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาค ใต้ โดยไม่ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้าง แต่มีการปรับแนวทางการทำงานให้ดีขึ้น โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ดูแลด้านกองทัพ ตำรวจ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มีการประสานการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ
พร้อมกันนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวอีกว่า ได้รับการประสาน กรณีญาติของผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จำนวน 100 คนติดต่อมา เพื่อนำผู้ต้องหาจำนวน 40 คนมามอบตัว โดยกำหนดเงื่อนไข 3 ข้อ เช่น การขอประกันตัวต่อสู้คดี และความปลอดภัย จึงได้ประสานให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับไปพิจารณา แต่ทั้งนี้ต้องมีการหารือกับฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการใน พื้นที่ก่อน ว่าจะยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะบางคนก่อเหตุรุนแรง และมีหมายจับว่าเป็นผู้หลบหนีคดี
อย่างไรก็ตาม ตนเองยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นแกนนำหรือผู้ปฏิบัติการก่อเหตุในระดับใด ซึ่งคาดว่า จะมีแนวทางที่ชัดเจนในวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคมนี้ ส่วนตัวเห็นว่า การแก้ปัญหาในชายแดนภาคใต้ต้องใช้วิธีการเจรจา และเชื่อมั่นว่า ไม่ได้เป็นการเจรจากับผู้ต้องหาผิดตัวอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนแนวทางการนำทหารกองหนุนในพื้นที่ 4,000 นาย ที่ปลดประจำการเป็นตำรวจท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ได้รับรายงานกลุ่มผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้ ที่ศาลอาญาจะพิจารณาการถอนประกันตัวแกนนำกลุ่ม นปช. เพราะเชื่อมั่นว่า ทุกฝ่ายจะน้อมรับคำตัดสินของศาลไม่ว่าจะผลจะเป็นอย่างไร