ร่วมบริจาค 
สำหรับน้องอิ้งอายุ 7 ขวบคนนี้ ก็เป็น 1ในผู้ป่วยโรคธาลัสซิเมียที่เพิ่งได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์มาแล้วกว่า 5 เดือนซึ่งนางวิยะดา วงศ์ประสิทธิ์ คุณแม่น้องอิ้งบอกว่า ถือเป็นความโชคดีที่เซลล์ของน้องอิ้งสามารถเข้ากันได้กับผู้ใจบุญที่ให้บริจาค หลังจากต้องรอมาตั้งแต่น้องอิ้งอายุ 3 ขวบ
พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เผยว่า ขณะนี้มีอาสาสมัครที่ขึ้นทะเบียนรอบริจาคสเต็มเซลล์แล้วกว่า 120,000 คน โดยมีผู้ป่วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด เช่น ลูคิเมีย มะเร็งเม็ดเลือดขาว ธาลัสซีเมีย มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ไขกระดูกฝ่อ ที่รอรับบริจาคประมาณ 1,000 คน แต่การที่เนื้อเยื่อของผู้ให้และผู้รับจะเข้ากันได้มีโอกาสเพียง 1 ใน 10,000 คน จึงเป้นข้อจำกัดที่ทำให้ตอนนี้มีผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายเพียง 90 คนเท่านั้น
ขณะที่ศ.นพ.ธานินทร์ อินทรกำธรชัย ประธานอนุกรรมการพัฒนาศักยภาพงานสเต็มเซลล์ กล่าวว่า การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์แม้จะใช้กรรมวิธีซับซ้อนยุ่งยาก โดยผู้ให้และผู้รับต้องมีเนื้อเยื่อ HLR ตรงกัน แล้วใช้กระบวนการฉายแสงเคมีบำบัดมากกว่าการรักษามะเร็งถึง 5 เท่าเพื่อให้สเต็มเซลล์เก่าหายไปก่อนจะใส่สเต็มเซลล์ใหม่เข้าไปแทนที่
สภากาชาดไทยตั้งเป้าภายในปี 2555 จะต้องจัดหาอาสาสมัครขึ้นทะเบียนบริจาคสเต็มเซลล์ให้ได้ 140,000 คน จึงเชิญชวนให้ผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว เข้ามาขึ้นทะเบียนบริจาค เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้แก่ผู้ป่วยโรคโลหิต ซึ่งถือเป็นการทำบุญครั้งสำคัญเพื่อช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ด้วยกัน