ภาคอีสานแล้ง ต้นข้าวขาดน้ำแห้งตาย
จังหวัดกาฬสินธุ์ 18 อำเภอ ประสบความแห้งแล้ง โดยเฉพาะที่ตำบลหนองบัว อำเภอนามน ต้นข้าวโพด และต้นข้าวเริ่มแห้งตายเพราะขาดน้ำ จากภาวะฝนทิ้งช่วง และอยู่นอกเขตชลประทาน ทำให้ชาวนาบางส่วนต้องสูบน้ำเข้านาเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวไม่ให้แห้งตาย ขณะที่เขื่อนลำปาว มีระดับน้ำในอ่างทั้งหมด 454 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของความจุอ่าง ซึ่งเป็นระดับน้ำที่น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี
ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา ประสบปัญหาฝนที่ทิ้งช่วงนานเกือบ 1 เดือน ทำให้นาข้าวที่อยู่นอกเขตชลประทานเริ่มยืนต้นตายแล้วประมาณ 40,000 ไร่ โดยเฉพาะที่อำเภอหนองบุญมาก มีนาข้าวเสียหายแล้วกว่า 20,000 ไร่ ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อำเภอปักธงชัย สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ได้เพิ่มปริมาณการปล่อยน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ จากเดิมวันละ 350,000 ลูกบาศก์เมตร เป็น 700,000 ลูกบาศก์เมตร แม้ว่าปริมาณน้ำในอ่างจะลดต่ำลงเหลืออยู่ร้อยละ 15 ของความจุอ่างทั้งหมด เพื่อให้ชาวนาในเขตชลประทานได้ใช้น้ำประคับประคองต้นข้าวกว่า 60,000 ไร่ จนกว่าฝนจะตกลงมาเพิ่ม
ด้านนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งให้ความช่วยเหลือพื้นที่ ประสบภัยแล้ง ใน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยการระดมเครื่องจักร รถขุดเจาะบาดาลกว่า 100 ชุด ออกให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในหมู่บ้านประสบภัยแล้ง โดยจะทำการขุดบ่อน้ำบาดาล บำรุงรักษา และล้างบ่อบาดาลเก่าให้สามารถใช้การได้เป็นปกติ