กระทรวงพาณิชย์เตรียมตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นประมูล
วันนี้ (29 ส.ค.55) จะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นซองประมูล ก่อนที่จะเปิดซองประมูลในวันที่ 30 สิงหาคม หรือวันพรุ่งนี้ โดยที่เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.55) ผู้ประกอบการผู้ส่งออกข้าว เจ้าของโรงสี รวม 30 บริษัท เข้ายื่นซองเสนอราคาข้าว ในโครงการรับจำนำข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 40 ซอง ซึ่งเป็นการยื่นซองเสนอราคาครั้งที่ 4 ในรอบปีนี้ และนับเป็นการเปิดประมูลล๊อตใหญ่ที่สุด หลังรัฐบาลเริ่มโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยกรมการค้าต่างประเทศ เปิดให้เอกชนยื่นซองประกวดราคา เพื่อเป็นการระบายข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล
ซึ่งวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว ที่มีอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธาน และจะเจรจาต่อรองราคากับผู้เสนอซื้อที่ผ่านเกณฑ์ โดยจะอ้างอิงจากราคาตลาดโลก ส่วนข้าวหอมมะลิจะอิงจากราคาในประเทศเป็นหลัก ให้แล้วเสร็จในวันเดียว ก่อนเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณา
การยื่นซองประมูลของเอกชนครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า มีบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ยื่นซองประมูลข้าว 5 เปอร์เซ็น จากทั้งหมด จำนวน 210,000 ตัน ซึ่งบริษัทดังกล่าว เคยได้รับการอนุมัติให้ส่งมอบข้าว 300,000 ตัน ให้กับอินโดนีเซีย เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในลักษณะการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ แต่ไม่สามารถส่งมอบข้าวได้ตามกำหนด จนถูกยกเลิกสัญญา และในการเปิดประมูลข้าวเปลือกค้างส่งมอบโรงสี ที่ค้างสต็อกนานกว่า 7 ปี พบว่า ผู้ประมูลซื้อส่วนใหญ่เป็นเจ้าของโกดังเก็บข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าว ไม่ได้รับคำสั่งให้สีแปรจากภาครัฐ จึงต้องประมูลเอง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการพื้นที่โรงสีได้
โดยหลังจากนี้ จะระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการระบายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าหรือจำหน่ายแบบรัฐต่อรัฐ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับอินโดนีเซีย ที่ต้องการนำเข้าข้าวประมาณ 1.5 ล้านตัน คาดว่า จะสรุปได้ภายในเดือนหน้า
สำหรับข้าวปริมาณข้าว 753,000 ตัน ที่รัฐต้องการระบายออกครั้งนี้ แบ่งประเภทเป็นข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมปทุม ข้าวหอมจังหวัดและปลายข้าว จำนวน 499,000 ตัน, ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ 210,000ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกเจ้าค้างส่งมอบจากโครงการรับจำนำข้าวปี 2548-2551 อีก 2,200 ตัน