แมนนี ปาเกียว ให้สัมภาษณ์หลังแพ้คะแนนต่อ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ โดยเปิดเผยว่า ต้องฝืนขึ้นชกกับ ฟลอยด์ด้วยมือเดียว เพราะบาดเจ็บหัวไหล่จึงไม่สามารถออกหมัดขวาได้ถนัด ซึ่งระหว่างเตรียมความพร้อมอยู่ในห้องแต่งตัว ทางทีมงานได้ยื่นเรื่องขอฉีดยาระงับปวดแล้ว แต่ประธานคณะกรรมการกีฬาของรัฐเนวาด้า ไม่อนุญาตและให้เหตุผลว่า ทีมงานของปาเกียว แจ้งเรื่องดังกล่าวช้าเกินไป
ส่วนทางฝั่ง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ให้สัมภาษณ์หลังรักษาสถิติไร้พ่ายของตัวเองเป็นไฟต์ที่ 48 ว่า ตัวเขายอมรับในฝีมือของ แมนนี่ ปาเกียว ที่เป็นนักชกที่น่าเหลือเชื่อ แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่แกร่งที่สุดที่เขาเคยเจอ ไม่ใช่นักมวยหมัดหนักที่สุดที่เขาเคยขึ้นชกด้วย จากประสบการณ์บนเวทีอันโชกโชน กับการได้ชกกับนักมวยหลากสไตล์ ทำให้เขาสามารถคาดเดาการออกหมัดของ ปาเกียว ได้อย่างง่ายได้ นอกจากนี้ ฟลอยด์ ยังเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า จะขึ้นชกอีกแค่ 1 ไฟต์เท่านั้น ก่อนจะหันหลังให้กับวงการ ซึ่งการชกไฟต์สุดท้ายน่าจะเกิดขึ้นช่วงเดือน ก.ย.2558 แต่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อคู่ชกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีภาพใบลงคะแนนของคณะกรรมการข้างเวทีทั้ง 3 คน หลุดออกมาทางโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นว่า เดฟ โมเร็ตติ ให้ ฟลอยด์ ชนะ ปาเกียว 118-110 โดยมองว่า ฟลอยด์ ทำได้ดีกว่า ปาเกียว ตลอดการชก 12 ยก มีแค่ยก 4 กับ ยก 6 เท่านั้น ที่ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ ทำผลงานได้ดีกว่า ส่วน เกล็น เฟลด์แมน และ เบิร์ต คลีเมนต์ส ให้ ฟลอยด์ เป็นฝ่ายชนะคะแนน 116-112 ซึ่งกรรมการให้คะแนนทั้ง 3 คน ต่างเป็นชาวอเมริกันทั้งหมด
ขณะที่เดลีเมล ได้มีการเก็บสถิติการออกหมัดในศึก ดรีมไฟต์ฟลอยด์ออกหมัดรวมทั้งแย็บและหมัดตรง 435 ครั้ง เข้าเป้า 148 ครั้ง คิดเป็น 34 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปาเกียวออกหมัดรวม 429 ครั้ง เข้าเป้า 81 ครั้ง คิดเป็น 19 เปอร์เซ็นต์