วิเคราะห์เหตุระเบิดรถยนต์ในย่านการค้า อ.สายบุรี
นาย ประเสริฐ เกียรติภักดี ชาว อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ยังคงจดจำภาพของคนร้ายที่แบ่งกำลังเป็น 3 ชุดเพื่อก่อเหตุระเบิดในรถยนต์ กลางเมืองสายบุรีเมื่อวานนี้(20 ก.ย.)ได้อย่างชัดเจน
โดยชุดแรก ขี่รถจักรยานยนต์นำหน้า ตามมาด้วยรถยนต์โต้โยต้าวีโก้ ซึ่งมีคนร้าย 5 คนนั่งอยู่ภายใน และมีรถยนต์เชฟโรเลต ที่ประกอบระเบิด ขับตามหลัง ก่อนจะนำมาจอดหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ หลังจากนั้น คนร้ายบนรถยนต์โต้โยต้าวีโก้ ได้ลงจากรถแล้วกราดยิงร้านทองกมลพรรณ โดยมีเพื่อนร่วมขบวนการคอยดูต้นทางและใช้ปืนข่มขู่ชาวบ้าน
หลังจากนั้นได้ขับรถยนต์โตโย้ต้าวีโก้ออกไป ก่อนที่คนร้ายอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่บนรถเชฟโลเรตประกอบระเบิด ทำทีไม่รู้เห็นกับเหตุการณ์ แล้วอาศัยช่วยชุลมุนวิ่งหนีไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จอดคอยคันแรก
จากนั้นไม่นาน รถยนต์ประกอบระเบิดก็ถูกจุดฉนวนขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คนและบาดเจ็บกว่า 40 คน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวคนร้ายจากภาพวงจรปิด
ส่วนรถยนต์ที่นำมาประกอบระเบิดพบว่าเป็นรถยนต์ ที่คนร้ายฆ่าเจ้าของรถ 3 คนเสียชีวิตก่อนจะปล้นมาจาก อ.เทพา จ.สงขลาเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา
กว่า 3 ชั่วอายุคนที่ครอบครัวลุงจ่วน จันทนทรัพย์ เจ้าของร้านขายรถจักรยานยนต์ย้ายจากเมืองจีนมาตั้งรกรากที่นี้ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ถูกไฟไหม้ ไม่เศร้าสลดมากไปกว่า การสูญเสียลูกชาย คือ นายไพศาล จันทนทรัพย์ ชีวิตที่เหลือของลุงจ่วนและภรรยา จึงไม่แน่ใจว่าจะอยู่ที่นี้ต่อไปได้อีกหรือไม่
ก่อน หน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ชาวบ้านบอกว่า ได้มีใบปลิวข่มขู่ให้ผู้ประกอบการปิดร้านในวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันสำคัญในการประกอบศาสนากิจของชาวมุสลิม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงถูกวิเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ ว่าคนร้ายอาจต้องการสร้างให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนต่างศาสนา จึงเลือกเป้าหมายเป็นย่านของคนจีน
ทั้งนี้ อ.สายบุรี ถือว่าเป็นแหล่งวัฒนธรรมดั่งเดิมของคนจีนจากโพ้นทะเล ที่มาตั้งรกรากนานหลายชั่วอายุคน แต่แม้ว่าจะเป็นจุดล่อแหลม มาตรการรักษาความปลอดภัยในเขตเมืองกลับมีเพียงการลาดตะเวนเป็นช่วงๆ และมีการตั้งด่านตรวจเฉพาะทางเข้าตัวเมืองเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเชื่อมั่น