ธปท.เผยสัดส่วนเงินฝากธนาคารพาณิชย์สูงถึง 80-90%

ธนาคารเเห่งประเทศไทย ระบุว่า สัดส่วนเงินฝากของธนาคารพาณิชย์สูงถึงร้อยละ 80-90 ของการระดมทุนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ขณะเดียวกันได้รายงานว่า สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรกปีนี้ยังขยายตัวได้ดี

น.ส.นวพร มหารักขกะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1 ปี 2554 เติบโตได้ดีทั้งสินเชื่อเอสเอ็มอีและธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการขยายตัวเพื่อการลงทุน แสดงว่า ภาคธุรกิจต้องการเพิ่มความสามารถการแข่งขันสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและส่งออก โดยไตรมาสแรกปีนี้สินเชื่อขยายตัวร้อยละ13.4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2553 ที่ร้อยละ11.3 โดยสินเชื่อภาคธุรกิจขยายตัวร้อยละ12.2 ซึ่งเป็นการขยายตัวจากสินเชื่อหมุนเวียน ในธุรกิจ และ การลงทุนผู้ประกอบการ

ส่วนเนื่องการระดมทุนในไตรมาสแรกประชาชนให้ความสนใจซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินมากขึ้นโดยสัดส่วนการซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 6 ร้อยละเป็น 9 อย่างไรก็ตาม สัดส่วนเงินฝากยังสูงถึงร้อยละ 80-90  ของการระดมทุนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์สะท้อนว่า ธนาคารพาณิชย์ ยังให้ความสำคัญการระดมทุนผ่านบัญชีเงินฝากของประชาชน

ทั้งนี้ ธปท.เห็นว่า ระบบธนาคารพาณิชยยังต้องจับตาและระมัดระวังความเสี่ยงต่างๆ ทั้งการแข่งขันระดมทุนที่สูงขึ้น เนื่องจากการลดการคุ้มครองเงินฝากของสถาบันการเงินจากเหลือ 50 ล้านบาทต่อผู้ฝากธนาคาร ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 11 ส.ค.2554  และ การขยายตัวที่เร่งขึ้นของสินเชื่อท่ามกลางเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ขณะที่ปัจจัยด้านต่างประเทศ เช่น ความผันผวนของราคาน้ำมัน เงินทุนเคลื่อนย้าย และการผลิตที่ต้องพึ่งพาสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น