มีแนวโน้ม
ผู้มีสิทธิออกเสียงมีประมาณ 19 ล้านคน โดยชาวเวเนซูเอล่าต่างพากันมาเข้าแถวยาวก่อนจะถึงเวลาเปิดหีบเสียอีก ซึ่งบรรยากาศคึกคักแบบนี้เป็นไปทั่วประเทศและยังรวมถึงการลงคะแนนของชาวเวเนซูเอล่าที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ทั้งในสหรัฐ คิวบา โดยเฉพาะที่บริเวณชายแดนเวเนซูเอล่าที่ติดกับโคลัมเบีย ซึ่งชาวเวเนซูเอล่าที่อาศัยอยู่ในโคลัมเบียถึงกับลงทุนลุยโคลนข้ามแม่น้ำทาชิร่าเข้ามาออกเสียง
โดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซูเอล่าครั้งนี้นับว่า มีความเข้มข้นสูสีที่สุดระหว่างประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ และ นายเอนริเก้ คาปริเลส ผู้นำฝ่ายค้านอายุ 40 ปี
นายชาเวซนั้นได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีครั้งแรกเมื่อปีพุทธศักราช 2541 โดยในการหาเสียงเพื่อดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 4 ครั้งนี้เขาประกาศมาตลอดว่า ต้องการปิดงานปฏิวัติสังคมนิยมให้เสร็จสมบูรณ์ ด้านนายคาปริเลส นั้นต้องการฟื้นเศรษฐกิจให้เติบโต
นายคาปริเลส กล่าวหาว่า นายชาเวซทำให้แทบจะไม่มีการลงทุนในด้านกิจการน้ำมัน ซึ่งเวเนซูเอล่ามีอยู่มากมายและเป็นสินค้าออกสำคัญ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าทั้งคู่จะต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพียงใด นายชาเวซ ซึ่งออกมาใช้สิทธิภายในกรุงคาราคัสกล่าวว่า ขอให้ทุกคนเคารพผลการเลือกตั้ง ขณะที่นายคาปริเลส ซึ่งออกมาใช้สิทธิภายในกรุงคาราคัสเช่นกันประกาศว่า ไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไร แต่เมื่อมีการประกาศผลออกมาเขาก็จะโทรศัพท์หานายชาเวซเป็นคนแรก