กสทช. พร้อมประมูล 3G 16 ต.ค.นี้ เชื่อศาลไม่สั่งระงับประมูล
ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ของ กสทช. รับรองคุณสมบัติ 3 บริษัท ในเครือเอไอเอส ดีแทค และ ทรู คอร์เปอเรชั่น ให้มีสิทธิ์ประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่โทรคมนาคม 2.1 กิกกะเฮิร์ต เพื่อใช้เป็นโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบบ 3 จี ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้
คณะกรรมการโทรคมนาคม ยืนยันว่า หากราคาประมูลสิ้นสุดเท่ากับราคาตั้งต้นไว้ที่ 4,500 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาต หรือมากกว่า ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จในการจัดประมูล ซึ่งการประมูลครั้งนี้ สื่อมวลชน และนักวิชาการด้านโทรคมนาคม ตั้งข้อสังเกตว่าใบอนุญาต ที่มีทั้งหมด 9 ใบ ซึ่งแต่ละรายประมูลสูงสุดได้ 3 ใบอนุญาต โดยมีผู้เข้าร่วมประมูล 3 รายถือว่าลงตัว แต่ถือว่าทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน ตามเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ปี 2553
สื่อมวลชน จึงพยายามขอให้ กสทช อธิบาย คำว่า "เหตุความจำเป็น" ที่ระบุไว้ในระเบียบ หลักเกณฑ์วิธีการประมูล และจำเป็นหรือไม่ที่ กสทช. ต้องปรับเปลี่ยน เงื่อนไข หรือหลักเกณฑ์การประมูล แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ขณะที่ กสทช.ที่เคยทักทวงราคาตั้งต้นการประมูล ระบุว่า ประเด็นนี้จะกลายเป็นข้อกังขาของสังคม และอาจส่งผลให้ กสทช.ถูกสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่
ด้านนายสมเกียรติ ตั้งกิจวนิช ประธานสถาบันเพื่อการวิจัยการวิจัยและพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ เรียกร้องให้ คณะกรรมการกสทช. รับผิดชอบ หากได้ราคาประมูลสุดท้าย สูงกว่าราคาตั้งต้นเพียงเล็กน้อย เพราะการนำคลื่นความถี่ ที่เป็นทรัพยกรของชาติ ออกมาประมูลเชิงพาณิชย์ ก็ควรดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่รัฐ ไม่ใช่เป็นการเอื้อต่อเอกชน ที่จะทำให้รัฐสูญเสียประมาณ 20,000 ล้านบาท
ขณะที่นายอานุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระด้านโทรคมนาคมจะไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง วันนี้ (10 ต.ค.) เวลา 10.00 น. เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ใน 6 ประเด็น ที่เห็นว่า กสทช. ยังไม่ประกาศแผนชัดเจนว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร จากการจัดประมูลครั้งนี้ ขณะเดียวกัน สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค เตรียมหารือกับเครือข่าย เพื่อกำหนดท่าที ต่อการจัดประมูล 3 จี ที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน