"โอกาส-การยอมรับจากสังคม" หนึ่งปัจจัยหลักที่เด็กเร่รอนต้องการ

หลังมีการนำเสนอปัจจัยในหลายด้านที่ส่งผลให้เด็ก และเยาวชนต้องหนีออกจากครอบครัวเพื่อใช้ชีวิตเป็นเด็กเร่ร่อน รวมถึงข้อเสนอจากหน่วยงานที่ทำงานด้านเด็กเร่ร่อน เพื่อการแก้ปัญหาเด็กเร่ร่อนอย่างยั่งยืน แต่พบว่ามีหลายคนที่แม้อดีตจะเผชิญชะตากรรมดังกล่าว แต่ปัจจุบันก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ขอเพียงได้รับโอกาสจากสังคม

ทันทีที่มาถึงที่ทำงาน ฐานพิฐ์นนท์ เพ็ชรนาค วัย 36 ปี ก็ปฏิบัติหน้าที่เว็บมาสเตอร์ของบริษัทไอ เซนเว่น อย่างตั้งใจ เขาทำงานที่นี่มาแล้วกว่า 2 ปี ในตำแหน่งสร้างสรรค์งานตรงหน้าเว็บไซต์ของบริษัท  ฐานพิฐ์นนท์ เรียนจบปริญญาตรี จากคณะศิลปศาสตร์ มรภ.พระนคร เมื่อปี 2539 และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับชีวิตในอดีตของเขา มันแตกต่างกันมาก

ฐานพิฐ์นนท์ เล่าว่า ด้วยฐานะครอบครัวยากจน ทำให้พ่อแม่ทะเลาะกันและแยกทางกัน เมื่อเขาอายุได้ 11 ปี พ่อจึงพาเขาออกจากบ้านที่่ จ.อุดรธานี ตระเวนขอทานตามต่างจังหวัด และในเวลาต่อมา ฐานพิฐ์นนท์ ก่อนแยกทางกับพ่อ มาเผชิญชีวิตเร่ร่อนด้วยตัวเองในกรุงเทพมหานคร

 
 

การใช้ชีวิตเร่ร่อนในเมืองหลวงนานกว่า 2 ปี ประสบพบเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่งได้พบกับครูข้างถนน จากมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตอีกครั้ง โดยเขาได้เข้ามาอยู่ในมูลนิธิแห่งนี้ ช่วยงานทำกิจกรรมต่าง ๆ และได้เรียนหนังสือ ทำให้เขามีทุกอย่างได้ในทุกวันนี้

ปัจจุบันฐานพิฐ์นนท์ มีครอบครัวที่อบอุ่น 4 คนพ่อแม่ลูก เขาตั้งใจที่จะดูแลครอบครัวให้ดีที่สุด เพราะไม่อยากมีครอบครัวล้มเหลวเหมือนในอดีต อุปนิสัยของที่มุ่งมั่น เอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง ทำให้ผู้คนรอบข้างของฐานพิฐ์นนท์ ต่างชื่นชม โดยไม่ได้มองชีวิตในอดีตของเขา

 

 

อดีตเด็กเร่ร่อนคนนี้ ยังฝากไปถึงสังคมโดยเฉพาะครอบครัว ต้องหมั่นให้ความรัก ความอบอุ่น และสร้างความเข้าใจร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพราะเด็กที่ก้าวพลาดและต้องออกมาใช้ชีวิตเร่ร่อน ในส่วนลึกของจิตใจแล้วพวกเขาก็ไม่ต้องการใช้ชีวิตแบบนี้ หากสถานการณ์สภาพแวดล้อมไม่ได้บังคับให้ต้องออกมาใช้ชีวิตเร่ร่อน โอกาสในชีวิตจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เด็กเร่ร่อนเรียกร้องและแสวงหา