กว่า 5 ปี ที่อยู่ในวังวนของการก่อเหตุความไม่สงบแนวร่วมระดับปฎิบัติการ หรือ อาร์เคเคคนนี้ ต้องพบกับแรงกดดันหลายอย่าง ทั้งการเลือกเป้าหมายก่อเหตุ หรือ การต้องฟังคำสั่งโดยมิอาจขัดขืน
แนวร่วมรุ่นใหม่คนนี้ บอกว่า เขาจบการศึกษาด้านศาสนาระดับสูง และ ถูกปลูกฝังอุดมการณ์ของกลุ่มแนวร่วมเกือบ 1 ปีก่อนจะเข้าสู่พิธีสาบานตน หรือ การซุมเปาะ พร้อมเพื่อน 4-5 คนในหอพักแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานถูกนำมาฝึกร่างกาย 15 วันเพื่อสร้างความมั่นใจเมื่อออกปฎิบัติการ ซึ่งงานแรกที่ได้รับมอบหมาย คือ การเผาโรงเรียน ซึ่งวันก่อเหตุได้เดินทางไปพร้อมกับรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มากกว่าและก่อเหตุได้สำเร็จ จนกระทั่งมีความชำนาญมากขึ้นจึงถูกสั่งให้ทำงานที่เสี่ยงมากขึ้นไปอีก แต่หากครั้งใดที่ก่อเหตุผิดพลาดจะได้รับคำตำหนิจากหัวหน้าชุด
การทำงานครั้งล่าสุดในการขว้างระเบิดใส่บ้านของเจ้าหน้าที่ที่ผิดพลาด จนต้องทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ในที่เกิดเหตุเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่สาวถึงตัวเขาและเพื่อนจึงถูกออกหมายจับ เขาจึงต้องหลบหนีทันที โดยขบวนการไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออื่นใดนอกจากเงินแค่ 100-200 บาท
สาเหตุที่ทำให้แนวร่วมอาร์เคเคคนนี้ตัดสินใจก้าวออกจากขบวนการและเตรียมขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการพูดคุยสันติภาพ เพื่อเข้าสู่การอบรมตามกฎหมายความมั่นคงมาตรา 21 เพราะลูกชายที่เพิ่งเกิดได้แค่ 11 เดือนอาจไร้พ่อหากเขายังคงหลบหนี เพราะอาจตกเป็นเป้าหมายทั้งจากขบวนการ หรือ เจ้าหน้าที่ ซึ่งเขาเชื่อว่า หากทางการให้โอกาสตัวเขาเพื่อนร่วมปฎิบัติการอีกไม่ต่ำกว่า 4-5 คน ซึ่งยังคงก่อเหตุอาจยอมวางอาวุธและเข้าสู่กระบวนการสันติภาพ