ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“แทมมี่ ดัคเวิร์ธ” ส.ส.สหรัฐฯ เชื้อสายไทยคนแรก

ต่างประเทศ
8 พ.ย. 55
02:16
75
Logo Thai PBS
“แทมมี่ ดัคเวิร์ธ” ส.ส.สหรัฐฯ เชื้อสายไทยคนแรก

“ลัดดา แทมมี่ ดัคเวิร์ธ” ชาวอเมริกันเชื้อสายไทย ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เชื้อสายไทยคนแรก โดยก่อนหน้านี้ “ลัดดา แทมมี่ ดัคเวิร์ธ” เคยได้รับตำแหน่งสำคัญหลายอย่าง ก่อนจะก้าวเข้ามาอยู่ในฐานะ ส.ส.พรรคเดโมแครต

พ.ท.หญิงลัดดา แทมมี่ ดัคเวิร์ธ อายุ 44 ปี อดีตทหารกองทัพสหรัฐฯ เป็น ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ถือเป็นผู้มีเชื้อสายไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ผ่านการเลือกตั้ง เข้าไปเป็นตัวแทนในรัฐสภาสหรัฐฯ โดยพ.ท.หญิงลัดดา แทมมี่ ดัคเวิร์ธ มีนายแฟรงค์ แอล ดักเวิร์ธ บิดาเป็นทหารในกองทัพสหรัฐ, นางละมัย สมพรไพลิน มารดาเป็นคนไทย ในวัยเด็กแทมมี่ ได้ศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ ก่อนจะติดตามครอบครัวไปในหลายประเทศของเอเชีย และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ University of Hawaii , ปริญญาโทที่ George Washington University ในกรุงวอชิงตัน ระหว่างที่กำลังศึกษาปริญญาโท แทมมี่ สมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพสหรัฐฯ และเข้าร่วมสงครามที่อิรักในปี 2547 ในฐานะนักบินหญิงเฮลิคอปเตอร์แบล๊คฮอร์ค

ขณะปฏิบัติหน้าที่เหนือกรุงแบกแดด ถูกฝ่ายตรงข้ามใช้จรวดยิงตก จนเสียขาทั้ง 2 ข้างและแขนขวา แต่แพทย์สามารถช่วยต่อแขนกลับคืนมาได้ หลังจากนั้น แทมมี่จึงใช้ขาเทียมทั้ง 2 ข้างในการดำเนินชีวิตประจำวัน หลังสงคราม แทมมี่ได้ทำงานการกุศลเพื่อทหารผ่านศึก ก่อนเข้าลงสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 6 ของรัฐอิลลินอยล์เป็นครั้งแรกในนามพรรคเดโมแครต เมื่อปี พ.ศ.2549 แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ก่อนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า จะดึงตัวไปเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกในอีก 2 ปีต่อมา

สำหรับในการเลือกตั้งครั้งนี้ แทมมี่ตัดสินใจลงสมัครอีกครั้งที่เขต 8 รัฐอิลลินอยล์ ที่มี ส.ส.พรรครีพับลิกัน นายโจ วอลช์ ครองตำแหน่งอยู่ การสมัครรับเลือกคั้งครั้งนี้ แทมมี่ได้รับการจับตามองถึงแรงสนับสนุนมากกว่าครั้งก่อน ทั้งนโยบายหาเสียง การเสียสละเพื่อสังคม และประสบการณ์ทางการเมือง นอกจากนี้กลุ่มทหารผ่านศึก กลุ่มหญิงชาวอเมริกัน กลุ่มชาวเอเชียและชาวไทย เมื่อทราบผลจากอาสาสมัคร แทมมี่ ได้ให้สัมภาษณ์กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนเธอรวมทั้งคนไทยด้วย และหลังทราบผลเลือกตั้ง แทมมี่ ได้โพสข้อความผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งทวิตเตอร์และเฟสบุค ขอบคุณผู้สนับสนุน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง