อื้อฉาว นอกใจภรรยาผู้อำนวยการซีไอเอมีสัมพันธ์ลับกับ"นางพอล่า บอร์ดเวลล์"

กรณีอื้อฉาวทางเพศจนผู้อำนวยการซีไอเอของสหรัฐต้องยอมประกาศลาออกล่าสุดยิ่งสอบสวนสาวลึกก็ยิ่งพัวพันไปถึงผู้บัญชาการทหารสหรัฐในอัฟกานิสถาน และยังสร้างความชุลมุนวุ่นวายที่สภาคองเกรส

นางแนนซี่ เปโลซี่ ผู้นำพรรคเดโมแครตและประธานสภาคองเกรส กล่าวว่า น่ายกย่องที่พลเอกเดวิด พีทราอุส ยอมลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ แต่โอกาสนี้นางเปโลซี่กลับติติงด้วยว่า ถ้าเป็นเกี่ยวกับความมั่นคงชาติ ทำไมไม่มีการแจ้งต่อสภาคองเกรสก่อนที่จะมีการให้ข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งผิดแนวปฏิบัติ

พลเอกพีทราอุสยอมรับว่านอกใจภรรยามามีสัมพันธ์ลับกับนางพอล่า บอร์ดเวลล์ ผู้ขอติดตามเพื่อเขียนอัตชีวประวัติโดยหลังจากพลเอกพีทราอุสลาออกเมื่อ 5 วันก่อน ตำรวจสืบสวนสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอยังพบข้อมูลโยงใยไปที่พลเอกจอห์น อัลเลน ผู้บัญชาการทหารสหรัฐในอัฟกานิสถาน ซึ่งก็สมรสแล้ว

เอฟบีไอพบว่า พลเอกอัลเลนส่งเอกสาร 20,000 ถึง 30,000 หน้าไปหานางจิล เคลลี่ เพื่อนสนิทของพลเอกพีทราอุส รวมทั้งการส่งอีเมล์โต้ตอบกันของทั้งคู่ที่พลเอกอัลเลนใช้ถ้อยคำว่า ทูนหัว และ ที่รัก อย่างไรก็ตามกรณีนี้เอฟบีไอสรุปว่าไม่ผิดกฏหมายของสหรัฐ และส่งเรื่องไปให้กองทัพสอบกันเองทางวินัย ซึ่งตามพระธรรมนูญทหารของสหรัฐ กรณีนอกใจคู่สมรส เป็นอาชญากรรม

ข้อมูลล่าสุดยังเผยออกมาด้วยว่าทั้งพลเอกพีทราอุสและพลเอกอัลเลนเคยเขียนจดหมายรับรองความประพฤติให้กับนางนาตาลี คู่แฝดของนางเคลลี่ ซึ่งถูกศาลปฏิเสธการขอรับดูแลบุตร โดยในขณะนี้เอฟบีไอกำลังตรวจเอกสารที่รั่วไหลไปจากมือของพลเอกพีทราอุสและพลเอกอัลเลน ว่า ขัดต่อกฏหมายด้านความมั่นคงหรือไม่ สำหรับนางเคลลี่คือผู้ที่แจ้งไปยังเอฟบีไอว่าถูกผู้หึงหวงพลเอกพีทราอุส ส่งอีเมล์มาคุกคาม ซึ่งต่อมาจึงพบว่าเป็นนางบอร์ดเวลล์และทำให้สัมพันธ์ลับนอกสมรสของพลเอกพีทราอุสแดงขึ้น