ส.ส.เพื่อไทยยื่นปปช.สอบ "สุขุมพันธุ์" กรณีงบก่อสร้างสนามบางกอกฟุตซอลฯ

กีฬา
14 พ.ย. 55
11:28
58
Logo Thai PBS
ส.ส.เพื่อไทยยื่นปปช.สอบ "สุขุมพันธุ์" กรณีงบก่อสร้างสนามบางกอกฟุตซอลฯ

ส.ส.กรุงเทพมหนคร พรรคเพื่อไทยเดินหน้าตรวจสอบการก่อสร้างสนามบางกอกฟุตซอล อารีน่า ด้วยการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พร้อมกับท้าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้แสดงหลักฐานการเบิกจ่ายงบประมาณและเร่งชี้แจงเรื่องพื้นสนามที่อ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช เพื่อให้ตรวจสอบ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ กรณีการก่อสร้างสนามบางกอกฟุตซอลอารีน่า

โดยตั้งข้อสังเกต 4 ประเด็น คือ กรุงเทพมหานครดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างหาผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นกรณีเร่งด่วน ซึ่งอาจเป็นการกำหนดผลประโยชน์ตอบแทนให้เอกชนเพียงรายเดียว, มีการปรับเปลี่ยนแบบก่อสร้างที่ผิดไปจากแบบเดิมซึ่งอาจมีผลต่อความปลอดภัย, ปกปิดสัญญาในการก่อสร้าง และใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่เพื่อแสวงหาผลประโยชน์สำหรับตนเอง หรือ ผู้อื่น และ กรณีการนำลูกจ้างและข้าราชการของ กทม.ไปช่วยงานผู้รับเหมาก่อสร้าง

ทั้งนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยท้าให้กรุงเทพมหานครเปิดเผยข้อมูลที่อ้างว่า สาเหตุที่ทำให้สนามไม่เสร็จเกิดจากความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณ ทั้งนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้นำเอกสาร พร้อมรูปถ่าย และวีซีดี เป็นหลักฐานให้กับ ป.ป.ชได้ตรวจสอบต่อไป

สำหรับสนามบางกอกฟุตซอลอารีน่า ก่อสร้างโดยบริษัทอีเอ็มซี จำกัด มหาชน โดยนายจิรายุ เปิดเผยว่า สัญญาในการก่อสร้างเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2555 และสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2556 ซึ่งมีระยะเวลาประมาณ 480 วัน แต่เพื่อให้เสร็จทันกำหนดของฟีฟ่าจึงต้องมีการเร่งรัดให้เสร็จภายในเดือนตุลาคม 2555 ซึ่งกรุงเทพมหานครไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล และชี้ว่า หาก กทม.เห็นว่าการก่อสร้างล่าช้ามีหน้าที่เพียงเร่งรัดผู้รับเหมา หรือ ดำเนินการเรียกค่าปรับตามกฎหมาย

ปัญหาการสร้างสนามบางกอกฟุตซอล อารีน่า หากป.ป.ช.พบว่า มีมูลความผิด กรณีเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความผิดทางวินัยป.ป.ช จะส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดซึ่งกรุงเทพมหานครอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงมหาดไทย แต่กรณีชี้มูลว่ามีความผิดทางอาญาจะส่งฟ้องศาลอาญาต่อไป แต่หากพบว่ามีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจะส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง