ปตท.ยอมเพิ่มก๊าซสถานีแม่น้ำพองเป็นวันละ 470 ตัน
หลังหารือนาน 3 ชั่วโมง ระหว่างตัวแทนผู้ประกอบการรถขนส่ง กระทรวงพลังงาน และ ผู้แทนบริษัท ปตท.ในการแก้ปัญหาก๊าซเอ็นจีวีขาดแคลน ได้ข้อสรุปว่า ปตท.จะเร่งเปิดจ่ายก๊าซจากสถานีก๊าซเอ็นจีวีแม่น้ำพอง จังหวัดขอนแก่นทำให้ปริมาณก๊าซเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 470 ตัน จากเดิม 216 ตัน โดยคาดว่า น่าจะบรรเทาปัญหาการขาดแคลนก๊าซในพื้นที่ภาคอีสานได้ และ น่าจะให้บริการได้ภายใน 10 วัน
ขณะเดียวกันจะพิจารณาแยกสถานีบริการระหว่างรถขนส่งขนาดใหญ่ และ รถบ้านหรือแท็กซี่ โดยเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งหาก 2 มาตรการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จะเสนอให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานพิจารณาชดเชยราคาเอ็นจีวีเพิ่มเติมจากเดิมที่กิโลกรัมละ 2 บาท
นายอภิชาต ไพรรุ่งเรืองที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าภาคอีสาน กล่าวว่า ปัญหาก๊าซเอ็นจีวีที่ขาดแคลนต่อเนื่องมานานถึง 6 เดือน ทำให้รถขนสินค้าต้องเสียเวลารอเติมก๊าซนาน 4 ถึง 12 ชั่วโมง และ เคยหารือกับ ปตท. มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ปตท.ยืนยันว่าปัญหาจะยุติภายในวันที่ 8 พ.ค.แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ และ ไม่มีการลงทุนขยายสถานีบริการเพิ่มเติม
นายอภิชาต กล่าวด้วยว่า ปริมาณความต้องการก๊าซเอ็นจีวีของรถบรรทุกภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่วันละ 700 ตันแต่ผลิตได้เพียง 400 ตัน ขณะที่มาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 2 ล้านบาทของรัฐบาลที่จูงใจให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากดีเซลเป็นเอ็นจีวีเมื่อ 2-3 ปีก่อน ทำให้รถบรรทุกหันไปใช้เอ็นจีวีแล้ว 120,000 คัน จากทั้งหมด 700,0000 คัน แต่ ปตท.กลับไม่ขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอ และ ยังสนับสนุนให้แท็กซี่อีก 15,000 คัน เปลี่ยนจากเชื้อเพลิงแอลพีจีเป็นเอ็นจีวียิ่งซ้ำเติมปัญหาขาดแคลนก๊าซ ทั้งนี้หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทางสมาคมจะนำรถบรรทุก รถตู้ รถบัส เข้ามาชุมนุมประท้วงบริเวณกระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท.