คาดบึ้มรางรถไฟรือเสาะ จ.นราฯ เชื่อมโยงเหตุการณ์ระเบิดที่ยะลาวานนี้
แม้โบกี้รถไฟสายนครศรีธรรมราช-สุไหงโกลก จะมีความแข็งแรง แต่แรงอัดของระเบิดน้ำหนักเกือบ 90 กิโลกรัมที่คนร้ายจุดฉนวนแบบลากสายไฟทำให้โบกี้รถไฟตู้ที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใช้พักอยู่ในสภาพฉีดขาดสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น และการสูญเสียอาสารักษาดินแดน "พนากร ขุนแก้ว" อส.รถไฟจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่เหลือต้องระวังตัวมากขึ้น โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่ขบวนรถไฟผ่าน เช่นเดียวกับที่เกิดเหตุในวันนี้ ( 18 พ.ย.) เคยถูกซุ่มยิงขบวนรถไฟมาแล้ว
ถังน้ำมันหนีภาษีที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อเพิ่มอนุภาพของระเบิด ซึ่งถูกนำมาวางไว้ในโบกี้รถไฟทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสอบสวนว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในรถจักรยานยนต์พ่วงข้างในเขตเมืองยะลาเมื่อวานนี้ ( 17 พ.ย.) หรือไม่ หลังพบว่า คนร้ายใช้ถังน้ำมันในลักษณะเดียวกันเพื่อเพิ่มอนุภาพของระเบิด จึงต้องตรวจสอบภาพวงจรปิดจากสถานีรถไฟต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นทางเพื่อหาผู้นำถังน้ำมันดังกล่าวมาวางไว้บนรถ
ขณะที่แผนการรักษาความปลอดภัยบนรถไฟจากเดิมที่จะมีการแบ่งหน้าที่ดูแล คือ ลาดตะเวนเส้นทางจะใช้กำลังทหาร สถานีรถไฟจะใช้กำลังตำรวจรถไฟ และ บนขบวนรถจะใช้กำลังอส รวม 8 นาย อาจต้องมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะจุดล่อแหลมต่างๆ ขณะที่การเปิดเดินรถไฟสายใต้โดยเฉพาะขบวนท้องถิ่น 10 ขบวน คาดว่า อาจจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3 วันจึงกู้โบกี้รถไฟ และเปิดให้บริการตามปกติ