ภาคเอกชนเชื่อ เอฟทีเอ ไทย-สหรัฐฯ ผลประโยชน์ตกเป็นของบริษัทต่างชาติ
กระทรวงสาธารณสุข จัดการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับข้อคิดเห็นต่อการเปิดการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย กับสหภาพยุโรป ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการคุ้มครองข้อมูลยา เเละการยืดอายุคุ้มครองสิทธิบัตรยา โดย นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่าต้องการเปิดโอกาสให้หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เเละภาคประชาชน ได้เเสดงความคิดเห็นถึงข้อดี เเละข้อเสียที่เกี่ยวเนื่องกับการทำเอฟทีเอ ไทย กับสหภาพยุโรป เพื่อเป็นเเนวทางให้รัฐบาลนำไปพิจารณาในเเง่มุมต่างๆ เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการเยียวยาจากผลกระทบต่างๆ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เห็นว่า การที่ไทยเปิดการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย กับ สหภาพยุโรป จะดึงดูดให้สหภาพยุโรปเข้ามาลงทุนมากขึ้น เเละยังเป็นการป้องกันการย้ายฐานการลงทุนของสหภาพยุโรปออกนอกประเทศ ซึ่งไทยจะได้รับผลประโยชน์ เเละส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ขณะที่องค์กรจากภาคประชาชน เห็นว่า การทำข้อตกลงดังกล่าว ผลประโยชน์ส่วนใหญ่จะตกเป็นของบริษัทจากต่างชาติ เนื่องจากข้อมูลปัจจุบันพบว่า ไทยมีการนำเข้ายาจากบริษัทต่างชาติถึงร้อยละ 70 อนาคตหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ จะทำให้อุตสาหกรรมยาของไทยอ่อนเเอลง ยิ่งอนุญาตให้มีการขยายระยะเวลาคุ้มครองสิทธิบัตรยามากเท่าไหร่ ความเสียหายก็จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคายาเเพงขึ้นตามไปด้วย
สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการปรึกษาหารือเพิ่มเติมอีก เเละยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการนำเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าเเน่นอน