ทหารผ่านศึกพิการร้องขอหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ
นายสงัด สุขสุโชติ อายุ 46 ปี ชายพิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง และขาด้านซ้ายพิการ จากอุบัติเหตุรถชนแล้วหนีเมื่อปี 2541 เล่าถึงความยากลำบาก ที่ต้องอาศัยอยู่กับแม่วัย 82 ปี เพียง 2 คน โดยเลี้ยงชีพด้วยเงินเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 500 บาท และเงินช่วยเหลือจากนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกพิการ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดือนละ 2,680 บาท
แม้จะรวมจำนวนเงินแต่ละเดือน ที่มีรายได้ 3,180 บาท ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะต้องรักษาอาการป่วยของตัวเอง ที่นอกจากจะตาบอด และขาพิการแล้ว ยังป่วยเป็นโรคมะเร็ง และต้องใช้เงินจำนวนนี้รักษาแม่ที่เจ็บป่วยด้วย
นายสงัด เล่าด้วยว่า เดิมเป็นทหารผ่านศึกไปรบที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ และหลังปลดประจำการ ได้ประกอบอาชีพขับรถรับส่งอาหารทะเล จนกระทั้งวันที่ 8 มี.ค. 2541 ถูกรถ10 ล้อพุ่งชนจนตาบอด ส่วนคนขับรถหลบหนีไป ได้รับเงินช่วยเหลือในขณะนั้นเพียง 2,000 บาท
หลังจากนั้นศาล ได้มีคำสั่งให้บริษัทรัตนโกสินทร์ประกันภัย จ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 100,000 บาท แต่ได้รับเงินแค่ 27,000 บาท และบอกให้รอเงินส่วนที่เหลือซึ่งจะแบ่งจายให้ แต่จนถึงขณะนี้ผ่านมาถึง 13 ปี ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา และทราบข่าวว่า บริษัทดังกล่าวได้ปิดตัวไปแล้ว
ส่วนขาที่พิการ เกิดขึ้นหลังจากตาบอดได้ 3 ปี ระหว่างที่โดยสารรถจักรยานยนต์ไปติดตามเรื่องเงินสินไหมทดแทน แต่ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก ทำให้ขาซ้ายหักเดินไม่ค่อยได้อีก ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ
นางฟื้น สุขสุโชต แม่ของนายสงัด บอกว่า รู้สึกเสียใจมากที่ลูกต้องมาเป็นอย่างนี้ เมื่อก่อนนายสงัดเป็นเสาหลักของบ้าน คอยทำงานหารายได้มาเลี้ยงแม่ หลังจากที่รถชนจนตาบอด และขาพิการ ทุกวันนี้เป็นห่วงลูกมากเพราะตัวเองก็อายุมากแล้ว หากเสียชีวิตไปก่อนลูก ก็จะไม่มีใครดูแล
นางฟื้น บอกว่า อยากจะวอนผู้ใจบุญ หรือ หน่วยงานใด ที่สามารถติดตามเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ที่ขับรถชนแล้วหนีมาช่วยเหลือ เพราะจะได้เก็บเงินส่วนนี้ไว้ให้ลูกได้ใช้เลี้ยงชีพ หากตัวเองเสียชีวิตไปก่อน และไม่มีคนดูแล