ประชาชนหลายจังหวัดยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ คัดค้านขึ้นราคาแอลพีจี
เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จังหวัดอุบลราชธานี และ ตัวแทนจากหลายองค์กรเข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อคัดค้านนโยบายการปรับขึ้นราคาแอลพีจีของกระทรวงพลังงานที่มีมติจะปรับราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนและการขนส่งอีก 6 บาท 69 สตางค์ในปี 2556 ซึ่งส่งผลกระทบกับประชาชน แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจำนวน 4 ล้านครัวเรือน และ ร้านอาหาร หาบเร่แผงลอยอีกกว่า 300,000 คน แต่คาดว่าภาครัฐต้องใช้งบประมาณถึง 10,000 ล้านบาท ในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
โดยเครือข่ายมีข้อเรียกร้อง 5 ข้อด้วยกัน คือ ให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายดังกล่าว เพราะราคาค้าปลีกแอลพีจีที่จำหน่ายในปัจจุบันเป็นราคาที่ผู้ค้าได้กำไรอยู่แล้ว , ก๊าซแอลพีจีที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ควรจัดให้ภาคประชาชนได้ใช้ก่อน ทั้งในภาคครัวเรือนและยานยนต์ ส่วนที่เหลือจึงจำหน่ายให้ภาคอุตสาหกรรม หากไม่เพียงพอให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้รับภาระในการนำเข้าเอง, ให้เลิกนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปอุดหนุนการใช้แอลพีจีเป็นวัตถุดิบของธุรกิจปิโตรเคมี, รัฐบาลควรสั่งให้ปิโตรเคมีที่ใช้แอลพีจีอย่างน้อยปีละ 2,400 ล้านกิโลกรัม จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันอย่างน้อยกิโลกรัมละ 7 บาท เหมือนที่สั่งเก็บจากโรงงานอุตสาหกรรมอื่น และสุดท้ายให้สั่งห้ามปลัดกระทรวงพลังงานและข้าราชการระดับสูงของกระทรวง มีหน้าที่กำกับดูแลกิจการพลังงานทั้งหมด เพราะเป็นการกระทำที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวในหลายพื้นที่ อย่างเช่นจังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดสงขลา ที่มีการรวมตัวคัดค้านให้รัฐบาลระงับนโยบายดังกล่าวเช่นกัน