วอน รัฐบาล จริงจังการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น ช่วยลดปัญหาน้ำเมาได้ผล
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วย นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และตัวแทนเยาวชนในนามเครือข่ายเยาวชนงดเหล้า กทม. เข้าพบนายกรัฐมนตรี และมอบสื่อรณรงค์เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ “ปีใหม่ ไร้แอลกอฮอล์” ปี 2556 ภายใต้แนวคิด “ของขวัญจริงใจ...ไร้แอลกอฮอล์” โดยเชิญชวนให้ ครม. และประชาชนรับและมอบของขวัญที่ปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจ ไม่ทำลายสุขภาพ ส่งความสุข และสร้างความปลอดภัยให้แก่กัน
โดยตัวแทนเยาวชน ได้มอบนาฬิกา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า “ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องออกมาปกป้องเยาวชน คนไทย ให้ปลอดภัยและห่างไกลจากปัญหาที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง” และได้ขอให้นายกรัฐมนตรีลงนามบนการ์ดอวยพร เพื่อส่งความสุข แสดงความห่วงใย และความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของประชาชนในเทศกาลปีใหม่
ทพ.กฤษดา กล่าวว่า ในเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจะร่วมกันส่งความสุข มีการรับและมอบของขวัญให้แก่กัน ดังนั้นหากเป็นความสุข จึงควรเลือกของขวัญที่แสดงออกถึงความจริงใจ ตั้งใจให้ผู้รับมีความสุข โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้กัน ในนามของ สสส. และเครือข่ายงดเหล้าทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนให้รณรงค์มอบกระเช้าของขวัญจริงใจ เพื่อสร้างค่านิยมที่ดี เป็นตัวอย่างแก่เด็กเยาวชนและแสดงออกถึงความสุขให้แก่กันอย่างแท้จริง รวมทั้ง ได้รณรงค์โดยการทำจดหมายขอความร่วมมือไปยังร้านค้าต่างๆ ให้จัดกระเช้าปีใหม่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผลสำรวจ เอแบคโพล เกี่ยวกับเรื่องการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญปีใหม่ นับตั้งแต่มีการรณรงค์ “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” ครั้งแรกเมื่อปี 2551 พบว่า มีปริมาณการซื้อที่ลดลงต่อเนื่อง โดยในปี 2552 ลดลงเหลือร้อยละ 21.1 และล่าสุดในปี 2554 ลดลงแหลือ ร้อยละ 12.8 นอกจากนี้ประชาชนยังเห็นว่า ไม่ควรให้ของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถึงร้อยละ 66 เพราะจะเป็นการให้โทษแก่ผู้รับ
“การรณรงค์ลดอุบัติเหตุที่มีปัจจัยมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาความรุนแรงและผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ โดยสถิติเกี่ยวกับการเมาสุรา พบว่า ร้อยละ 42 ของผู้เสียชีวิตมีสาเหตุจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยังพบว่ามีผู้กระทำความผิดจากการดื่มแล้วขับที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี มีถึงร้อยละ 7 แสดงให้เห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านมานั้นยังไม่เข้มข้น จึงขอให้รัฐบาลจริงจังในเรื่องนี้” ทพ.กฤษดา กล่าว