ป่าสงวนถูกบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อปลูกพืชเชิงเดี่ยวกว่าร้อยละ 70
สภาพ ป่าไม้ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางอย่างหนักในเขตป่าสงวนเขาปางก่อวังชมพู บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำป่าแดง ตำบลป่าเลา อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังส่งผลต่อแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร และผลิตน้ำประปาสำหรับเขตเมืองเพชรบูรณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตะกอน ดินที่ไหลลงมาทับถมในอ่างเก็บน้ำป่าแดง จนพื้นที่เก็บน้ำของอ่างลดลงจาก 20 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้น้ำมีไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง ต้องลดพื้นที่เพาะปลูกจากร้อยละ 60 เหลือเพียงร้อยละ 30 ของพื้นที่ทั้งหมดกว่า 12,000 ไร่ ขณะที่การขุดลอกตะกอนดินออกจากอ่างทำได้ลำบาก เนื่องจากตะกอนมารวมกันบริเวณหน้าอ่าง ชลประทานจังหวัดเพชรบูรณ์จึงต้องทำเรื่องของบประมาณไปยังกรมชลประทาน เพื่อพิจารณาให้ขุดลอก หรือเพิ่มความสูงของสันอ่างเก็บน้ำ เพื่อเพิ่มการกักเก็บน้ำ
ปัญหา อ่างเก็บน้ำป่าแดง มีน้ำไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้เกษตรกรบ้านป่าแดง ตำบลป่าเลา ต้องสูบน้ำบาดาลมาใช้ในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้งมานานหลายปีแล้ว ทั้งที่อยู่ห่างจากอ่างเก็บน้ำป่าแดงเพียงไม่กี่กิโลเมตร
ส่วนภัยแล้งในพื้นที่ตำบลป่าเลา สะท้อนให้เห็นการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำได้อย่างชัดเจน หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้เพชรบูรณ์ ระบุว่า ที่ผ่านมาได้ใช้ทั้งมาตราการด้านกฏหมายในการควบคุมการบุกรุกป่า และ ส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาปลูกไม้ยืนต้น แซมในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร
ขณะที่ จังหวัด เพชรบูรณ์มีพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กว่า 1 ล้านไร่ มากที่สุดของประเทศไทย หากการส่งเสริมการเกษตรแบบผสมผสานของภาครัฐ และมาตราการทางกฏหมายยังไม่ได้ผล การบุกรุกป่า อาจมีแนวโน้มขยายวงกว้าง และส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำ กว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้