อนุกรรมการฯ ชี้ คำสั่งปรับค่ายมือถือต้องให้เฉียบขาดวันละ 5ล้าน
เผยตัวเลขผู้ใช้บริการถูกบริษัทยึดเงินเฉลี่ยรายละ 500 บาทแล้ว โดย พรีเพดมีคนใช้บริการ 70 ล้านเลขหมาย
กรณีปัญหากำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า (พรีเพด) ซึ่งยืดเยื้อมายาวนาน แม้ล่าสุดเลขาธิการ กสทช. ได้มีคำสั่งบังคับทางปกครองบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ราย โดยให้บริษัทชำระค่าปรับทางปกครองในอัตราวันละ 100,000 บาท ต่อสำนักงาน กสทช.ให้ครบถ้วนทั้งนี้ซึ่งคิดแล้วเป็นการจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 3 ล้านบาทต่อเดือน โดยมีคำสั่งปรับทางปกครองไปตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคมปีที่ผ่านมา
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า จากข้อมูลการร้องเรียนพบว่า ตั้งแต่ปี 2552-2555 มีผู้บริโภคร้องเรียนกรณีนี้ทั้งสิ้น 2,494กรณี ในจำนวนนี้เป็นผู้ร้องเรียนที่ถูกยึดเงินในระบบจำนวน 687กรณี เฉพาะรายที่แจ้งรวมเป็นเงินที่ถูกยึดจำนวน 355,225.04 บาท หรือเฉลี่ยแล้วผู้ใช้บริการถูกยึดเงินจากระบบรายละ 517.06 บาท โดยผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินทั้งประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 70,610,490 เลขหมาย หากมีผู้บริโภคแม้เพียงร้อยละ 1 หรือจำนวน 700,000 คน ถูกยึดเงินในระบบก็รวมเป็นเงินถึง 350 ล้านบาทแล้ว แต่เงินค่าปรับของ 3 บริษัทถูกคิดแค่ ๓ ล้านบาทต่อเดือนเท่านั้น ทั้งที่กระทำผิดกฎหมายและยึดเงินของผู้บริโภคไปแล้วจำนวนมาก
“ปัญหานี้ยืดเยื้อมานานคนใช้บริการมีมากถึง 70 ล้านเลขหมาย สำนักงาน กสทช. ควรมีความเฉียบขาดมากกว่านี้ โดยเพิ่มค่าปรับทางปกครองในอัตราสูงสุดเป็นวันละ 5 ล้านบาท เนื่องจากเป็นประเด็นที่เห็นการกระทำความผิดขัดต่อกฎหมายชัดเจน ซึ่งคณะอนุกรรมการฯได้ทำความเห็นเสนอไปยัง กทค. ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2555 เพื่อขอให้มีการเพิ่มค่าปรับทางปกครองให้สอดคล้องกับความเสียหายของผู้บริโภค ประเด็นสำคัญนั้น ไม่ใช่ต้องการเงิน แต่ต้องการให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครองผู้บริโภคได้อย่างแท้จริงและนำไปสู่การแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการยุติการกำหนดระยะเวลาการใช้บริการพรีเพดเสียที มิฉะนั้นคำสั่งปรับทางปกครองจะเป็นเพียงการให้บริษัทจ่ายค่าเช่าในการกระทำผิดกฎหมายเท่านั้น “ นางสาวสารีกล่าว
นางสาวสารี กล่าวว่า เหตุผลที่สนับสนุนได้ดีก็คือ แม้ สำนักงาน กสทช. จะมีการออกคำสั่งทางปกครองไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้บริโภคจำนวนมากถูกกำหนดระยะเวลาการใช้บริการ ถูกยึดเงิน และถูกยึดหมายเลขโทรศัพท์อยู่เช่นเดิมหากนับตั้งแต่มีคำสั่งทางปกครองตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม ปีที่ผ่านมา มีสูงถึง 330 ราย แบ่งเป็น ถูกกำหนดระยะเวลาใช้บริการ 160 ราย ถูกยึดเงิน 43 ราย และถูกยึดเลขหมาย 127 ราย
และขอให้ผู้บริโภคช่วยกันร้องเรียนเรื่องนี้ให้มาก โดยสามารถร้องเรียนไปยังสำนักงาน กสทช. 1200 เพื่อให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการสั่งปรับทางปกครองแบบลงโทษให้สอดคล้องกับความเสียหายของผู้บริโภค และให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพรีเพดทุกราย ปฏิบัติตามประกาศ เรื่อง กระบวนการรับเรื่องร้องเรียนและพิจารณาข้อร้องเรียนของผู้ใช้บริการ พ.ศ. 2549 ข้อ 5 คือ ในระหว่างการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ผู้ให้บริการต้องยุติการระงับบริการแก่ผู้ร้องเรียนทุกราย จนกว่าเรื่องร้องเรียนนั้นจะได้ข้อยุติด้วย