ผู้ต้องหาคดีข่มขืนนักศึกษาชาวอินเดีย และทำร้ายจนเสียชีวิต จะให้การปฏิเสธตามที่ทนายแนะนำ
ทนายความที่รับทำคดีให้ผู้ต้องหา 3 คนจากทั้งหมด 5 คนกล่าวว่า ได้แนะนำให้ลูกความของเขาปฏิเสธทุกข้อหา แต่ไม่แน่ใจว่า เมื่อถึงเวลาพิจารณาคดี ลูกความของเขาจะปฏิบัติตามหรือไม่ เนื่องจากมีแรงกดดันมากมาย ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ไม่แน่ชัดว่า มีทนายความรับทำคดีให้หรือไม่ และผู้ต้องหารายที่ 6 คนเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี จะถูกแยกตัวไปพิจารณาคดีในศาลเยาวชน
สำหรับการพิจารณาของผู้ต้องหาทั้ง 5 คนจะมีขึ้นอีกครั้งวันพรุ่งนี้ (10ม.ค.55) ซึ่งคาดว่า ศาลจะโอนคดีนี้เข้าสู่กระบวนการพิเศษที่เรียกว่า "ฟาส์ต แทรค" ซึ่งจะทำให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างฉับไว นอกจากนี้ ยังมีกระแสความไม่พอใจอีกระลอก เมื่อนายอัสซาราม บาปู ผู้นำทางศาสนาคนหนึ่ง ได้กล่าวกับเหล่าศิษยานุศิษย์เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาที่รัฐมหารัชตะ
ทั้งนี้ ได้แสดงความเห็นต่อคดีรุมข่มขืนนักศึกษาหญิงวัย 23 ปี ว่า เหยื่อเองก็มีส่วนผิดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเหยื่อควรร้องขอ ให้ผู้ต้องหาทั้ง 6 คนละเว้นเธอ ซึ่งจะช่วยชีวิตและรักษาศักดิศรีของเธอไว้ได้ โดยคำพูดดังกล่าวสร้างความไม่พอใจและนำไปสู่การประท้วงในรัฐกุจราช โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้เขาถอนคำพูด และในเวลาต่อมานายอัสซารามแก้ต่างว่า คำพูดของเขาถูกสื่อมวลชนนำไปบิดเบือน
ก่อนหน้านี้โฆษกประจำตัวของเขาพยายามชี้แจงเพื่อบรรเทาความไม่พอใจของประชาชนว่า นายอัสซารามไม่ได้หมายความว่าเหยื่อมีส่วนผิดในคดีรุมข่มขืน แต่สื่อมวลชนตีความผิดไปเอง ที่จริงแล้ว เขาต้องการสื่อความหมายว่า หญิงสาวที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ควรจะปกป้องตัวเองด้วยการเอ่ยพระนามของพระเจ้า เพื่อดลใจหรือขอร้องให้ผู้กระทำผิดเปลี่ยนใจ