ชาวบ้านริมเจ้าพระยากลัวตลิ่งทรุด หลังเรือบรรทุกน้ำตาลอับปาง
ชาวบ้านในตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยาที่ปลูกสร้างบ้านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาต้องเร่งรื้อถอนบ้านตลอดทั้งคืนหลังกระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะแนวตลิ่งจนพังไปแล้วกว่า 3 เมตร
เจ้าของบ้านบอกว่า ในวันที่เกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำตาลลำนี้ได้ลอยมากระแทกตลิ่งทรุดไปบางส่วน และ หลังผ่านมาแล้วถึง 3 วันก็ยังไม่สามารถกู้เรือขึ้นมาได้ทำให้กระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเปลี่ยนทิศทางและกัดเซาะตลิ่งในบริเวณนี้ลึกเข้ามาแล้วกว่า 3 เมตรทำให้บ้านที่ปลูกสร้างอยู่ริมแม่น้ำในบริเวณนี้ถูกความแรงของกระแสน้ำพัดพังไปแล้วถึง 2 หลัง
ขณะที่ความพยายามในการกู้เรือบรรทุกน้ำตาลทรายเมื่อวานนี้ตลอดทั้งวัน ยังไม่เป็นผล แม้เจ้าหน้าที่พยายามนำเรือถึง 4 ลำ มากู้ซากเรือบรรทุกน้ำตาล แต่ความแรงของกระแสน้ำจากฝนที่ตกลงมาเกือบตลอดทั้งวันทำให้เกิดอุบัติเหตุเรือที่นำมากู้เรือบรรทุกน้ำตาลจมลงไปในน้ำ โดยผู้ที่อยู่บนเรือสามารถหนีได้ทัน 3 คน แต่คนขับเรือ ซึ่งเป็น เจ้าของเรือชื่อนาย ธวัช เภาวิลัย อายุ 33 ปีขณะนี้ยังหาตัวไม่พบซึ่งทางตำรวจคาดว่า อาจจมหายไปกับกระแสน้ำ
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายเพื่อเตรียมช่วยเหลือและได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำตาลทรายแล้ว
ส่วนผลกระทบต่อคุณภาพน้ำนายวรศาสน์ อภัยพงษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ค่าออกซิเจนที่ละลายในน้ำขณะนี้ลดต่ำลงอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง และ เริ่มส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำแล้วโดยที่บริเวณอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตรวจวัดค่าออกซิเจนละลายน้ำได้ 0.6 มิลลิกรัมต่อลิตรจากเดิมที่ตรวจวัดได้ 3.2 มิลลิกรัมต่อลิตร