นายกฯสั่งเร่งฟื้นฟู หลังเรือบรรทุกน้ำตาลล่ม
ชาวบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยายังคงเร่งรื้อถอนบ้านเรือน หลังเกิดอุบัติเหตุเรือน้ำตาลทราย ล่มในตำบลภูเขาทองเมื่อ 3 วันก่อนทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศกัดเซาะตลิ่งจนถึงตัวบ้าน ส่วนการกู้ซากเรือ ซึ่งเดิมคาดว่า จะกู้เสร็จช่วงเย็นวานนี้ต้องหยุดชะงักเนื่องจากกระแสน้ำแรงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถลงไปอุดรอยรั่วของเรือได้ และ ยังทำให้เรือโยงล่มระหว่างการขนย้ายน้ำตาล เมื่อคืนที่ผ่านมามีผู้สญหาย 1 คนคือ นายธวัช เภาวิลัย เจ้าของเรือ
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศให้อำเภอพระนครศรีอยุธยา บางปะอิน และอำเภอบางไทร เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากเรือน้ำตาลล่ม เพื่อนำงบมาช่วยเหลือเจ้าของกระชังปลา และบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบปัญหาเรือน้ำตาลล่มส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านตั้งแต่จุดเกิดเกตุในอำเภอพระนครศรีอยุธยา ไปจนถึงอำเภอบางปะอิน อำเภอบางไทร อำเภอสามโคก และอำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ล่าสุดกระแสน้ำไหลมาถึงอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีแล้ว โดยขณะนี้มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ และ ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 2 จังหวัด คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ปทุมธานี
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่า บริเวณอำเภอบางไทรระดับออกซิเจนละลายน้ำลดลงจากเดิม 3.8 มิลลิกรัมต่อลิตรเหลือเพียง 0.1 มิลลิกรัมต่อลิต รวมทั้งบริเวณตำบลสำแล จังหวัดปทุมธานี ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำโดยเฉพาะปลาขนาดใหญ่อย่างปลากระเบนขนาดใหญ่ที่เข้ามาเกยตื้น
ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง หารือเพื่อแก้ปัญหาเรือขวางทางน้ำทำให้น้ำกัดเซาะตลิ่ง และ ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยเพื่อหาทางฟื้นฟูและแก้ไขคุณภาพน้ำ