ปัญหาการพัฒนามวยไทยรุ่นใหญ่ สู้ต่างชาติยากเพราะสรีระไม่เอื้ออำนวย
การส่งเสริม มวยไทยรุ่นใหญ่ บรรดาค่ายมวยและโปรโมเตอร์ เช่น น.ต.วิชัย ราชานนท์; เจ้าของค่ายมวย ราชานนท์ ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ ต่างก็ยอมรับว่า มันใช่เรื่องง่ายที่จะทำในระยะอันใกล้นี้ โดยทางฝั่งค่ายมวยมองว่าในการพัฒนานักมวยไทยรุ่นใหญ่ ตั้งแต่รุ่น 70 กิโลกรัมขึ้นไป ค่อนข้างมีปัญหาโดยเฉพาะบุคคลกรที่มีค่อนข้างน้อย
เนื่องจากมวยไทย เป็นกีฬาที่แข่งขันชกกันตามพิกัดน้ำหนัก เริ่มขึ้นเวทีกันตั้งแต่ น้ำหนัก 30 กิโลกรัม หลังจากนั้นก็ควบคุมน้ำหนักมาตลอด ทำให้ร่างกายแคระแกร็น หยุดการเจริญเติบโต ทำให้มวยไทย เต็มที่ก็ชกได้เกินพิกัด 65 กิโลกรัมเท่านั้น ผิดกับนักชกมวยต่างชาติที่ตัวใหญ่ธรรมชาติ ชกก็ชกตามพิกัดน้ำหนักของตัวเอง หรือไม่ก็ลดน้ำหนักน้อย
นอกจากนี้ อีกประการที่เป็นอุปสรรคหลักก็คือ ค่านิยมของคอหมัดมวย ในประเทศไทย ก็ยังนิยม เสพมวยรุ่นเล็กมากกว่ามวยตัวใหญ่ เนื่องจากการออกอาวุธ หมัด เท้า เข่า ศอก แตกต่างกัน มวยไทยรุ่นเล็กสร้างบรรยากาศบนสังเวียนผ้าใบ ได้ดุเดือดเผ็ดมันมากกว่า มวยใหญ่ ที่กว่าจะออกอาวุธได้แต่จดๆจ้องๆกัน ส่งผลให้น้อยครั้งที่ เวทีมวยต่างๆ มีโปรโมเตอร์ จัดศึก นำมวยรุ่นใหญ่มาชกร่วมรายการ เพราะจัดแล้วก็ไม่มีคนดู
แม้จะมีอุปสรรคในการส่งเสริมมวยไทย รุ่นใหญ่ แต่ก็ยังพอมีหนทางจะเดินหน้าต่อไปได้ หากว่า มีการร่วมไม้ร่วมมืออย่างจริงจัง โดยเฉพาะ ภาครัฐกับค่ายมวยไทยต่างๆที่จะต้องเริ่มต้นด้วย ทำอย่างไร จะปรับเปลี่ยนค่านิยมของบรรดาแฟนมวย ให้หันมาดูมวยใหญ่ชก และจะจัดรายการชกอย่างต่อเนื่องมีเงินรางวัลมากๆ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้กับมวยไทยตัวใหญ่ มาใส่นวมฝึกซ้อมอย่างจริงจัง
มวยรุ่นใหญ่ จะต้องใช้เวลาสร้างพอสมควร ซึ่งหากว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จะเป็นช่องทางในการส่งเสริมศิลปะประจำชาติ พร้อมกับช่วยให้นักมวยไทย มีมูลค่าและเป็นที่ต้องการของตลาดมวยไทยในทวีปต่างๆ ซึ่งจะเป็นที่มาของรายได้ที่มาจากการเล่นกีฬา