ปชป.ยังไม่สรุป ฟ้องดีเอสไอปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุ กรณีสัมปทานบีทีเอส-เงินบริจาค
แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ไปที่ย่านสีลม ช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หาเสียงกับกลุ่มคนทำงานและกลุ่มคนรุ่นใหม่ เสนอนโยบายเฉพาะกลุ่มให้ กทม.เป็นมหานครแห่งโอกาส 3 ด้าน คือ ให้คนรุ่นใหม่มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจ, เปิดตลาดไอเดีย และเปิดโครงการตลาดนัดในสวนสาธารณะ
ขณะที่นายกรัฐมนตรีใช้เวลาก่อนปฏิบัติหน้าที่ ไปที่ตลาดสดสายเนตร ย่านคู้บอน ช่วยพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทย หาเสียงครั้งแรก และในคณะหาเสียง ยังมีแกนนำพรรคอีกหลายคนร่วมไปด้วย โดยเฉพาะนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.คนใกล้ชิดคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และนางปวีณา หงสกุล ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในทีมรองผู้ว่าฯกทม.
ช่วงบ่ายพล.ต.อ.พงศพัศ เข้าพบพล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประจำกรุงเทพมหานคร เพื่อมอบเอกสารหลักฐานที่ถูกกล่าวหาในประเด็นการลักทรัพย์ ยืนยันว่า พร้อมถูกตรวจสอบ ซึ่งทาง กกต.ก็ยืนยัน จะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ให้เสร็จภายใน 7 วัน หลังจากรับสมัครวันสุดท้าย หรือ วันที่ 25 มกราคม
ส่วนการประชุมทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ สรุปจะยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ และพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุและใช้อำนาจกลั่นแกล้ง คดีร่วมกันทำให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนา จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม แต่ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่สรุป ว่าจะยื่นฟ้องกลับในคดีเงินบริจาคเข้าพรรค และคดีต่อสัญญาสัมปทาน บีทีเอส ส่วนต่อขยายของ กทม.แม้ข้อกล่าวหาจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันทางการเมืองในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.