นักการเมือง-นักวิชาการประสานเสียง
เหตุเผากล้องวงจรปิด ในจังหวัดยะลา 76 ตัว เมื่อวันที่ 13 มกราคม แต่ส่วนใหญ่เป็นกล้องที่ใช้งานไม่ได้ กลายเป็นความเคลือบแคลง ถึงสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อกล้องวงจรปิดส่วนใหญ่ที่ถูกเผา เป็นกล้องที่อยู่ในการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงมหาดไทย ในสมัยนายอารีย์ วงค์อริยะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทเอกชนที่ส่งมอบงานไม่ทันในสมัยนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก่อนจะเลือกใช้วิธีการคัดเลือกพิเศษ แทนการเปิดประมูล เพื่อดำเนินการต่อ ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีเชื่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจเกิดจากความขัดแย้งในผลประโยชน์ของบประมาณกว่า 969 ล้านบาท ในโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด
ตรงกับนักวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เห็นว่า เหตุลอบวางเพลิงกล้องวงจรปิดหลายครั้งนอกจากเกิดจากฝีมือแนวร่วม ส่วนหนึ่งก็เกิดจากความขัดแย้งในงบประมาณ เพราะการติดตั้งกล้องวงจรปิด สามารถทุจริตได้เกือบทุกระดับ ตั้งแต่การขอประมูล การกำหนดชนิด หรือสเป็คของกล้อง หรืองบในการบำรุงรักษา ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายล้านบาทต่อปี
คุณภาพของกล้องวงจรปิดที่มีอายุการใช้งานต่ำ และศักยภาพในการบันทึกที่สามารถบันทึกภาพได้เฉพาะภาพที่ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ เป็นหนึ่งในรอยรั่วของการใช้กล้องวงจรปิดเพื่อเฝ้าระวังเหตุในปัจจุบัน ทำให้ เทศบาลเมืองปัตตานี ต้องกำหนดกล้องวงจรปิด 328 ตัวที่ใช้งบประมาณในการจัดซื้อ 28 ล้านบาท ต้องบันทึกภาพได้ทุกตัว รวมถึงการจัดการวางตำแหน่งของกล้องวงจร ให้มีขอบข่ายสามารถมองกล้องตัวถัดไป ก็จะช่วยป้องกันการตกเป็นเป้าหมายในการถูกลอบวางเพลิง
นอกจากนี้ทางเทศบาลยังต้องอาศัยเครือข่ายพิทักษ์เมืองเป็นผู้ดูแลกล้องวงจรปิด เพื่อให้เครื่องมือป้องกันเมืองเหล่านี้ สามารถใช้งานนานที่สุด