โรงเรียนในพื้นที่ 3 จว.ใต้สร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยตนเอง
ลวดหนามที่ติดบนกำแพงสูงประมาณ 2 เมตรและประตูเหล็กดัดที่ติดตามประตูห้องเรียนเป็นอีกมาตรการหนึ่ง ที่ครูโรงเรียนบ้านปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สร้างขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ครู ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เข้ามาทำร้ายขณะสอนหนังสือ หรือทำกิจกรรมอยู่ในพื้นที่ของโรงเรียน
ผู้บริหารโรงเรียนบ้านปะกาฮารัง กล่าวว่า แนวคิดใช้ลวดหนาวติดบนกำแพง และ การทำประตูเหล็กดัด เกิดขึ้น หลังครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตกเป็นเป้าหมายกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง จึงมองว่า ชีวิตครูแทบไม่มีความปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงที่ครูใช้เวลา อยู่ในพื้นที่ของโรงเรียน จะมีช่องว่าง ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เข้ามาทำร้ายครูได้ เพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ไม่สามารถดูแลครูขณะสอนหนัวสือได้ตลอดเวลา ทำให้ครูต้องหาวิธีช่วยเหลือตัวเอง
ส่วนโรงเรียนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดนราธิวาส จำนวน 378 โรง ที่หยุดสอนหนังสือ หลังครูโรงเรียนบ้านตันหยง อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ถูกยิงเสียชีวิตในโรงเรียนเมื่อ 2 วันก่อน จะสอนตามปกติสัปดาห์หน้า หลังสมาพันธุ์ครูจังหวัดนราธิวาส หารือกับหน่วยงานความมั่นคงได้ข้อยุติถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยยึดมาตรการเดิมที่ตกลงกันไว้กับสมาพันธุ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่หน่วยงานความมั่นคงต้องเข้าดูแลโรงเรียนที่มีครูมุสลิมเหมือนดูแลครูไทยพุทธ
ข้อมูลสมาพันธุ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า ขณะนี้มีข้าราชการครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เสียชีวิตจากเหตุก่อความไม่สงบ จำนวน 158 คน ในจำนวนนี้มีครูมุสลิมเสียชีวิต 7 คน รายล่าสุดคือนายชลธี เจริญชล ครูโรงเรียนบ้านตันหยง อำเภอบาเจาะ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตเมื่อ 2 ก่อนทำให้สมาพันธุ์ครูจังหวัดนราธิวาส วิเคราะห์ว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่หันมาทำร้ายครูมุสลิมช่วงนี้ อาจจะเกิดจากหน่วยงานความมั่นคง ดูแลครูไทยพุทธอย่างเข้มข้น จึงไม่มีช่องให้ทำร้ายได้ จึงหันไปทำร้ายครูมุสลิม เพื่อสร้างกระแสทำร้ายครู