จนท.เก็บหลักฐานขยายผล กรณีการก่อเหตุโจมตีนย.จ.นราธิวาส
เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพื้นที่กดดันกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุโจมตีฐานปฏิบัติการทหารหน่วยนาวิกโยธิน เมื่อ 3 วันก่อน รวมถึงขยายผลจากรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่พบในที่เกิดเหตุ ขณะที่ล่าสุด ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศปก.กปต. มีมติไม่ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านนายซูกิฟลี ด๊ะอาลี หมู่ที่ 5 ต.ปาลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เพื่อเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ คนในครอบครัวของนายซูกิฟลี หนึ่งในจำนวนผู้ก่อเหตุ 16 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุโจมตีฐานทหารกองร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 เมื่อ 2 วันก่อน โดยเฉพาะพ่อและพี่ชาย เพราะเจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ของ ทั้ง 2 คน อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งทั้งพ่อและพี่ชายนายซูกิฟลีให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ในวันเกิดเหตุนาย ซูกิฟลี กับเพื่อน ได้มาขอยืมรถจักรยานต์ไปธุระ
พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบาเจาะ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบรถยนต์กระบะโต้โยต้าวีโก้ ติดป้ายทะเบียนปลอม ที่ถูกพบในที่เกิดเหตุอีกคันหนึ่ง พบว่า เป็นรถที่ถูกขโมยมา หลังก่อเหตุยิงนายสมพร ศรีสุข ชาวอ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ปีที่แล้ว
ขณะที่การประชุมเกือบ 4 ชั่วโมง เพื่อรับฟังความเห็นทั้งจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน, สภาความมั่นคงแห่งชาติ และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ลงมติเอกฉันท์ไม่ประกาศเคอร์ฟิว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า ทุกฝ่ายเห็นร่วมกันให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งได้ประเมินจากทุกมิติแล้ว โดยเฉพาะเรื่องความร่วมมือจากภาคประชาชน ขณะที่ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะประธาน ศปก.กปต. ยอมรับในมติที่ประชุม พร้อมทั้งกำชับให้ประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน เพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด