ฟุตบอลโตโยต้าพรีเมียร์คัพ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์โตโยต้าลีกคัพและไทยคมเอฟเอคัพ ฤดูกาลที่แล้ว แชมป์เก่ารายการนี้ ลงสนามพบกับ นาโกย่า แกรมปัส เอท จากเจลีก ก่อนเริ่มเกมมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายกนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย
บุรีรัมย์เกมไม่ได้เป็นรองทีมจากเจลีก และมีโอกาสขึ้นนำ แต่นักเตะ นาโกย่าเพียง 2 คน ยิงให้ นาโกย่า แกรมปัสขึ้นนำ 1-0 จาก จุนโกะ ฟูจิโมโตะ ในนาทีที่ 29
หลังจากนั้นทีมบุรีรัมย์บุกหนักหวังตีเสมอ แต่เกมรับของบุรีรัมย์ เป็นจุดอ่อนปล่อยให้ จุนโกะ ฟูจิโมโตะ เข้าไปยิงผ่านมือ ศิวรักษ์เช่นเดิม จบเกม บุรีรัมย์ แพ้ นาโกย่า แกรมปัส เอทไป 0-2 พลาดโอกาสคว้าแชมป์รายการนี้ 2 สมัยติดต่อกัน และทำให้ นาโกย่า แกรมปัส เอทเป็นทีมจากญี่ปุ่นทีมแรกที่ได้แชมป์รายการนี้หลังจากที่ก่อนหน้านี้ การท่าเรือไทย และ บุรีรัมย์ ที่ได้แชมป์ถ้วยใบนี้ไปครอง
โดยนาโกย่า แกรมปัส เอท รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท ขณะที่บุรีรัมย์รับเงินรางวัล 5 แสนบาท
ด้านทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ภายใต้การคุมทีมของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นำทีมลงอุ่นเครื่องกับ แบงคอก ยูไนเต็ด ที่สนามไทยญี่ปุ่น ดินแดง ท่ามกลางแฟนบอลที่เข้าไปชมเกมกันหนาตา
แบงค้อกยูไนเต็ด ครองบอลได้เหนียวแน่แต่จังหวะสุดท้ายไม่เฉียบคม ขณะที่นักเตะซีเกมส์ใช้การตัดบอลเร็วเล่นงาน จนมาเป็นผล นาที 25 จากจังหวะที่ ชุติพันธ์ ทองแท้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลกับ นายทวารของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนจะยิงให้ทีมซีเกมส์นำ 1-0
จากนั้นเกมรุกของนักเตะซีเกมส์ยังทำได้หลากหลายแต่จบสกอร์ไม่ได้ ครบ 90 นาที ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 ทำให้ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ชมนักเตะชุดซีเกมส์ว่าคุณภาพเกมรุกและเกมรับของทีมดีขึ้น มีผลมาจากการอุ่นเครื่องหลายนัดของนักเตะ