กระทรวงพลังงาน เตรียมวางแผนรับมือกับวิกฤตด้านพลังงงานขาดแคลน
กระทรวงพลังงาน เตรียมวางแผนรับมือกับวิกฤตด้านพลังงงานเนื่องจากพม่าจะปิดซ่อมท่อส่งก๊าซยาดานา ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าฝั่งตะวันตกหายไปอย่างน้อย 4,100 เมกกะวัตต์
ด้านนายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า มาตรการที่รัฐบาลเตรียมประกาศใช้เป็นเพียงมาตรการที่ช่วยได้ในระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งระยะยาวรัฐบาลต้องสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ เเละควรเร่งให้ใบอนุญาติการผลิตพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งต้องกระจายแหล่งเชื้อเพลิงชนิดอื่น เช่น ถ่านหิน หรือ นิวเคลียร์
ขณะที่น.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร มองว่า วิกฤติดังกล่าวอาจเป็นการสร้างเรื่องของรัฐบาล ทำให้ราคาก๊าซสูงขึ้น เพื่อหาเหตุผลสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือ โรงงานไฟฟ้าถ่านหิน เนื่องจาการปิดซ่อมบำรุงท่อก๊าซ ของประเทศพม่าเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นทุกปี และบริษัทที่ได้สัมปทานบริหารท่อก๊าซทั้งหมดเป็นบริษัทต่างชาติ ร่วมถึงบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. ของไทย ที่สามารถจะกำหนดวันปิดซ่อมบำรุงให้เป็นช่วงอื่นที่ไม่กระทบกับการใช้ไฟฟ้าของไทยได้
ปัจจุบัน บริษัท ปตท.สผ.เป็นบริษัทเดียวที่ผูกขาดท่อก๊าซทำให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่สามารถเลือกซื้อพลังงานจากแหล่งอื่นได้ ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของบริษัทปตท.ที่จะต้องจัดหาพลังงานมาจากแหล่งอื่นมาทดแทนและต้องไม่ผลักภาระราคาที่เพิ่มขึ้นให้แก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้การแก้ไขวิกฤติด้านพลังงานในระยะยาวของไทยรัฐบาลควรส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างจริงจัง เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ พลังงานไบโอแกส ให้มากขึ้น เพราะมีการวิจัยแล้วว่าในปี 2030 พลังงานหมุนเวียนจะสามารถตอบสนองความต้องการใช้หลังงานของประชาชนได้ทั้งหมด