นายกสมาคมฟุตบอลฯ ไปชี้แจงต่อฟีฟ่ากรณีล้มบอล
การสัมมนาร่วมกับอินเตอร์โพลหรือ ตำรวจสากล สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า จะส่งบุคคลากรมาให้ความรู้โดยตรงกับทุกชาติในเอเชียในงานที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี จัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย วันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ ซึ่งเอเอฟซีได้เชิญนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ไปร่วมบรรยายเกี่ยวกับวงการฟุตบอลในเมืองไทย หลังจากการบรรยายนาย วรวีร์ต้องไปพูดคุยกับตำรวจสากล และเจ้าหน้าที่ของฟีฟ่า เพื่อฟังข้อมูลหลังจากมีการร้องเรียนจาก นาย โยชิดะ โตชิมิตซึ กรรมการชาวญี่ปุ่นที่มาทำหน้าที่ในเกมฟุตบอลมูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศปีที่แล้ว ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ซึ่งกรรมการชาวญี่ปุ่นอ้างว่าถูกว่าจ้างให้ล้มบอล
เบื้องต้น ฟีฟ่ายืนยันว่าได้รับหลักฐานภาพถ่ายในระหว่างที่มีการติดต่อกัน นอกจากนั้นยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญคือคลิป เสียงที่บันทึกไว้ระหว่างการพูดคุยอีกด้วย สำหรับขั้นตอนการสอบสวน ฟีฟ่า เปิดเผยว่า จะดำเนินการควบคู่ไปกับคณะกรรมการของสมาคมฟุตบอลไทยที่ตั้งขึ้น
ก่อนหน้านี้ไทยเคยมีการสอบสวนโดยใช้เครื่องจับเท็จมาแล้วในกรณีนายมานพ ปานสาคร กรรมการที่ตัดสินคู่ระหว่างชัยนาท กับ บีอีซี ในฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งครั้งนั้นนายมานพ ถูกกล่าวหาว่าตัดสินเอนเอียง ในขณะที่รูปแบบของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีล้มบอลยังไม่มีกฎหมายรองรับ
ขณะนี้ พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพของเมืองไทย ซึ่งมีหมวดว่าด้วยการล้มกีฬาผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกวุฒิสภาแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการกลั่นกรองจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง โดยเป็นครั้งแรกที่การล้มบอล หรือ ล้มกีฬา จะมีบทลงโทษที่ชัดเจนทั้งปรับและจำคุก ซึ่งผู้ติดสินบนกรรมการมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับ 200,000-500,000 บาท โดยประธานคณะกรรมการพิจารณาโทษถูกกำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา