สหรัฐฯ รับมือจีนแฮคข้อมูล
แผนงานยุทธศาสตร์ของทำเนียบขาวที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อปราบปรามหัวขโมยที่ล้วงความลับทางการค้าของสหรัฐฯ เพื่อนำไปให้บริษัทหรือรัฐบาลต่างชาติสร้างความได้เปรียบอย่างไม่ธรรมในเชิงธุรกิจ การกระทำแบบนี้ถือเป็นภัยคุกคามธุรกิจ, ความมั่นคงของชาติ และทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯตกอยู่ในความเสี่ยง ดังนั้น รัฐบาลจะใช้วิธีทางการทูตกดดันให้รัฐบาลต่างชาติปราบปรามการขโมยความลับทางการค้า
ในขณะเดียวกันหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯรวมถึงบริษัทเอกชนจะต้องร่วมมือ และประสานงานกันให้มากกว่านี้เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และความลับทางการค้า ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ บริษัทของสหรัฐฯที่ตกเป็นเหยื่อการแฮคข้อมูลรายล่าสุดคือสำนักงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์ และวอลล์สตรีทเจอร์นัล
เรื่องราวอื้อฉาวในครั้งนี้เริ่มต้นจากการที่บริษัท "แมนเดี้ยน" ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตของสหรัฐฯ ออกมาระบุว่าหน่วยทหาร 61398 ของจีนที่มีสำนักงานในนครเซี่ยงไฮ้ ได้แฮคเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐบาล และบริษัทเอกชนของสหรัฐฯ อย่างน้อย 141 องค์กร ตั้งแต่ต้นปี 2549 ขโมยข้อมูลไปหลายร้อยเทราไบต์
ทันทีที่มีรายงานข่าวนี้ออกมารัฐบาลจีนได้ออกมาตอบโต้ผ่านสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูลความจริงในทางกลับกันประเทศจีนต่างหากที่ตกเป็นเหยื่อของการแฮคข้อมูลมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และกองทัพของจีนไม่เคยให้การสนับสนุนการแฮคข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น