พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะในครั้งนี้มีอยู่ 24 รัฐ ซึ่งนายเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว โดยประกาศเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายจากพายุหิมะ,ฝนลูกเห็บ,พายุทอร์นาโดและน้ำแข็ง คาดว่าบางพื้นที่จะมีหิมะตกสูงถึงสิบนิ้ว ขณะที่สนามบินนานาชาติในเมืองแคนซัสได้ปิดให้บริการ หลังยกเลิกเที่ยวบินมากกว่าร้อยละ 90 เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย คาดว่าเมืองแคนซัสอาจจะเผชิญกับหิมะที่ตกหนักที่สุดในรอบ 101 ปี
ขณะที่รัฐอื่นๆต่างเตรียมการเพื่อรับมือกับพายุหิมะ อย่างในรัฐอาร์คันซอ ทางการเตือนประชาชนให้เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน พายุหิมะในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนราว 60 ล้านคนหรือร้อยละ 20 ของชาวอเมริกันทั้งประเทศ ส่วนที่รัฐแคนซัสมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐบาลในส่วนที่ไม่จำเป็นสามารถหยุดงานได้ จนถึงตอนนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตซึ่งมีสาเหตุจากพายุหิมะอย่างน้อย 2 คน พายุหิมะในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางอย่างหนัก ทั้งทางบกและทางอากาศ โดยเครื่องบินโดยสารในพื้นที่ทางภาคกลางได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลายสายการบินยอมให้ผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม
แม้ว่าพายุหิมะจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก แต่ในอีกแง่หนึ่งพายุหิมะในครั้งนี้จะช่วยบรรเทาปัญหาความแห้งแล้งในรัฐเนบราสก้า,แคนซัส,โอกลาโฮม่าและเท็กซัส