มองมุมต่าง ความเห็นสภาประชาสังคมฯ-สภาอุตฯ ต่อการตั้งกลุ่มวาดะห์

การแต่งตั้งกลุ่มวาดะห์เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีเพื่อรับฟังความเห็นการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคำสั่งแต่งตั้งระบุเหตุผลว่า เพื่อการดำเนินงานด้านการข่าวและการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ปัญหาความไม่สงบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่มุมมองของประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ เห็นว่า กลุ่มวาดะห์เป็นเพียงกลุ่มมวลชนหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งไม่สามารถชี้นำกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบได้ ซึ่งเป็นแกนกลาง แก้ปัญหาความรุนแรงได้

การแต่งตั้งให้ตัวแทนกลุ่มวาดะห์ เข้าไปเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประสิทธิ เมฆสุวรรณ ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้เห็นว่าจะมีผลต่อการแก้ปัญหาความรุนแรงได้ไม่มากนัก เพราะกลุ่มวาดะห์เป็นเพียงกลุ่มมวลชนหนึ่งในพื้นที่เท่านั้น และที่สำคัญไม่สามารถชี้นำกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบซึ่งถือว่าเป็นแกนกลางปัญหาความรุนแรงในขณะนี้ได้

ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้แบ่งมวลชนในพื้นที่ออกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ คือผู้สนันสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ มวลชนของพรรคการเมือง ซึ่งในที่นี้สามารถแบ่งย่อยออกเป็นผู้สนับสนุนพรรคการเมืองต่างๆในพื้นที่และมวลชนกลุ่มวาดะห์ก็อยู่ในส่วนนี้ด้วย ส่วนที่สามเป็นมวลชนของภาคประสังคมซึ่งเน้นการทำงานด้านสันติวิธี และกลุ่มที่ 4 คือมวลชนแนวร่วมของผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งหากเทียบกันทั้ง 4 กลุ่มแล้ว มวลชนแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบผ่านกระบวนการจัดตั้งมาเป็นอย่างดีเพราะมีเป้าหมายสุดท้ายคือการแบ่งแยกดินแดน

ยู่สิน จินตภากร ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรม จ.ยะลา ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ผู้ได้รับการแต่งตั้งจึงควรตั้งใจทำงานเพื่อเชื่อมประสานความต้องการของประชาชน และภาครัฐควรมีความจริงใจในการนำข้อเสนอแนะไปสู่การแก้ปัญหา

สิ่งที่รัฐบาลคิดและคนในพื้นที่มอง ยังมีความแตกต่างกัน สะท้อนได้จากการแต่งตั้งที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งขาดความหลากหลาย

สำหรับองค์กรที่ปรึกษาเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ ซึ่งมีตัวแทนภาคส่วนต่างๆเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาอย่างหลากหลายและผ่านการคัดเลือกอย่างโปร่งใส คือสมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการทำงานที่ผ่านมาก็ได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่