อนาคตวงการมวย ภายใต้การนำของ
หลังจากสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2496 มีนายกสมาคมที่มาจากจากพลเรือนเพียง 4 คนเท่านั้น คือ นายโฉลก โกมารกุล ณ นคร ในพ.ศ.2501-2510, นายประชุม รัตนเพียร พ.ศ.2528-2530, นายไพโรจน์ รัตตกุล พ.ศ.2531-2532 โดยมีนายแคล้ว ธนิกุล ที่ดำรงตำแหน่งใน พ.ศ.2533-2534 เป็นนายกสมาคมที่มาจากพลเรือนคนล่าสุด ซึ่งก็ต้องย้อนไปถึง 22 ปี โดยใน 22 ปีหลังมานี้ ผู้นำหรือนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2555 ล้วนมาจากคนมีสีในกองทัพทั้งสิ้น
ทำให้การเลือกตั้งนายกสมาคมครั้งนี้ ซึ่งได้บอร์ดจากกลุ่มพลังงาน ชื่อ พิชัย ชุณหวชิร ในวัย 64 ปี มาเป็นนายกสมาคม ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่พลิกประวัติศาสตร์ของวงการมวยของไทยแบบสิ้นเชิง ที่สำคัญยังเป็นการวัดกึ๋นความเป็นมืออาชีพในการบริหารของตัวนายกคนใหม่อักด้วย เนื่องจากปัจจุบัน กีฬามวยสากลสมัครเล่น มีงานรออยู่มากมาย ทั้งศึกภายในที่ต้องประสานกับกองทัพที่เป็นต้นสังกัดของนักมวย และศึกภายนอกที่ต้องปะทะกับสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติหรือไอบ้า ถือว่าหนักหนาสาหัสเอาการ
บรรดาสโมสรต่าง ๆ ยืนยันว่าอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงแบบมืออาชีพ และรวดเร็ว ในการเข้ามาพัฒนากีฬามวยสากลสมัครเล่น ซึ่งเป็นกีฬาความหวังของคนไทยทั้งชาติ และสร้างนักกีฬาเหรียญโอลิมปิกเกมส์มาแล้วถึง 4 เหรียญทอง ที่ปัจจุบันยังมีปัญหามากมาย
แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยถึงนโยบายและแผนงานต่างๆหลังจากได้ผู้นำคนใหม่ของกีฬามวยสากลสมัครเล่น แต่ก็มีข่าวว่า สมาคมได้เตรียมปรับเปลี่ยนสต๊าฟผู้ฝึกสอนใหม่ ด้วยการดึงอดีตผู้ฝึกสอนที่เคยร่วมงานกับ ฮวน ฟอนตาเนียล อย่าง นาวาเรือเอก ทวีวัฒน์ อิสลาม และ ร.อ. สุภาพ บุญรอด มาร่วมงานกับ โอมาร์ พาร์รากอน ผู้ฝึกสอนชาวคิวบา โดยทีมกำปั้นไทยที่มีอยู่แล้วบางส่วน จะมีการเรียกนักชกหน้าใหม่มาเสริมทีมก่อนจะเริ่มเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมซีเกมส์ ในวันที่ 1 มีนาคมนี้