เจ้าหน้าที่เร่งหาข่าว หวั่นเครือข่ายกลุ่ม 
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้า การสอบสวนทหารไทย 9 นายที่ถูกซัดทอดว่า เกี่ยวข้องกับกลุ่มนายหน่อคำ ร่วมกันปล้นทรัพย์ และฆาตกรรมกัปตัน และลูกเรือจีนว่า ศาลไต่สวนคดีนี้เสร็จแล้ว ระบุว่า การตายเกิดจากเจ้าพนักงาน, ประเด็นที่ 2 คือ พบยาเสพติดบนเรือ 920,000 เม็ด ซึ่งสำนวนได้ข้อสรุป และอัยการสั่งไม่ฟ้องกัปตัน และลูกเรือทั้ง 2 ลำ แต่สั่งฟ้องนายหน่อคำ และพวกแทน
ด้านคดีร่วมกันฆ่า เชื่อว่า นายหน่อคำกับพวก ร่วมกับทหารไทยทั้ง 9 คน มีส่วนคดีนี้ จึงสั่งฟ้องและเตรียมส่งสำนวนให้อัยการภายในเดือนนี้ ส่วนคดีปล้นทรัพย์บนเรือ และกักขังลูกเรือจีน พบว่า นายหน่อคำกับพวกอีก 8 คน ร่วมกับทหารไทย 1 คน วางแผนเพื่อปล้นทรัพย์ครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ พ..อ.ถนัดพล โกศัยเสวี ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง กล่าวว่า ได้ประสานไปทางหน่วยรักษาความสงบเรียบร้องตามลำน้ำโขง หรือ นรข. จังหวัดเชียงราย หาข่าวเพื่อป้องกันกลุ่มสมุนนายหน่อคำสร้าง สถานการณ์เพื่อแก้แค้นให้กับนายหน่อคำ
ส่วนนายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ระบุกรณีนายหน่อคำ ที่ถูกทางการจีนประหารชีวิตว่า ไม่มีผลต่อการยึดทรัพย์ในคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามหมายจับของ ปปส. เพราะการยึดทรัพย์เป็นไปตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กะทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แม้ผู้ต้องหาจะเสียชีวิตไปแล้ว
ปัจจุบันแม่น้ำโขง มีหน่วยเรือปฏิบัติการพิเศษของจีน ร่วมกับ สปป.ลาว ลาดตระเวณคุ้มกันเรือสินค้า ตั้งแต่ชายแดนประเทศจีนถึง 3 เหลี่ยมทองคำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ขณะที่สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน รายงานว่า ศาลประชาชนกลางเมืองคุณหมิง มลฑลยูนนาน ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน กำหนดให้วันที่ 1 มี.ค. เป็นวันประหารชีวิตนายหน่อคำ พร้อมพวกอีก 3 คน ซึ่งมีคนไทยชื่อ ซางคำ รวมอยู่ด้วย โดยฉีดยาพิษเข้าร่างกาย