ใช้กระแส
ลดปัญหาขยะ ยึดแนวคิด “Zero Waste” เกาะกระแสความต้องการผู้บริโภคแนวใหม่ ชี้ช่วยลดปัญหาขยะ-ลดภาวะโลกร้อน เปิดช่องทางสู่เชิงพาณิชย์
นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า นอกจากกรมวิชาการเกษตรจะศึกษาวิจัยและพัฒนาการแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและพัฒนาระบบตลาด พร้อมสร้างความมั่นคงทางอาหารแล้ว ขณะเดียวกันยังได้เร่งวิจัยการเพิ่มมูลค่าจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรภายในประเทศด้วย เนื่องจากปริมาณวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยมุ่งเน้นให้ยึดแนวคิด “ของเสียเหลือศูนย์” หรือซีโร่ เวสต์(Zero Waste) เป็นหลักในการศึกษาวิจัยและพัฒนา ซึ่งมีการนำวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมาแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นแนวทางสร้างมูลค่าเพิ่มจากเศษวัสดุเหลือทิ้ง สามารถช่วยลดปริมาณขยะให้น้อยลงได้ ทั้งยังลดปัญหามลพิษและช่วยลดสภาวะโลกร้อนอีกทางหนึ่ง
ขณะนี้สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กำลังอยู่ระหว่างเร่งศึกษาวิจัยการนำวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์หลายชนิด อาทิ ผลิตภัณฑ์จานชามจากเปลือกทุเรียน แผ่นใยอัดจากหยวกกล้วย ถุงหรือซองฟิล์มบรรจุเครื่องปรุงรสผลิตจากแป้งมัน ซองฟิล์มจากหยวกกล้วย และซองฟิล์มจากเปลือกทุเรียน เป็นต้น ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งอนาคตอันใกล้นี้ คาดว่าจะประสบผลสำเร็จและถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปสู่ผู้ประกอบการที่สนใจและสามารถนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ได้
กรมวิชาการเกษตรยังมีแผนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่เพื่อสร้างสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบและนวัตกรรมการผลิตไบโอพลาสติก(Bio-plastic) เพื่อใช้ทดแทนพลาสติก ทั้งยังมีแผนวิจัยและพัฒนาระบบการผลิตทางการเกษตรให้ปลอดวัสดุเหลือใช้(Zero Waste Agriculture)ด้วย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถและความเข้มแข็งในการผลิตสินค้าพืชและผลิตภัณฑ์ เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน
รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า อนาคตกระแสความต้องการของผู้บริโภคไม่ได้มองเฉพาะอาหารพร้อมบริโภคเพียงอย่างเดียว แต่จะมองถึงความสะดวกต่อการบริโภคด้วย ดังนั้น บรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการยุบตัว พับเก็บง่าย และย่อยสลายเร็วก็จะได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย น่าจะเป็นรูปแบบใหม่สำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในอนาคตซึ่งสอดรับกับความตื่นตัวและความต้องการในเรื่อง Zero Waste ของผู้บริโภคทั่วโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น