นายกฯมาเลเซียสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์ในรัฐซาบาห์
นายนาจิ๊บ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่กำลังเผชิญแรงกดดันด้านความมั่นคงที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ประกาศว่าเขาได้สั่งการให้เพิ่มกำลังทหาร และตำรวจเข้าสู่พื้นที่ที่มีการเผชิญหน้าในรัฐซาบาห์อีก 2 กองพัน พร้อมประกาศจะถอนรากถอนโคนกลุ่มผู้รุกรานออกจากพื้นที่ หลังจากเมื่อวันศุกร์ เจ้าหน้าที่เปิดฉากปะทะกับกลุ่มติดอาวุธชาวฟิลิปปินส์ประมาณ 100 - 300 คนที่ยึดหมู่บ้านทันดูอา มานานกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อจะยึดรัฐซาบาห์คืนจากมาเลเซียให้แก่ผู้ที่อ้างตัวเป็นสุลต่านซูลู ในฟิลิปปินส์ เป็นเหตุให้กลุ่มติดอาวุธชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิต 12 คน ตำรวจมาเลเซียเสียชีวิตอีก 2 นาย
และเมื่อคืนวันเสาร์ ก็เกิดเหตุปะทะอีกจุด ที่เมืองเซ็มปอร์น่า ห่างจากหมู่บ้านทันดูอา ไปราว 300 กิโลเมตร ทำให้มีกลุ่มติดอาวุธเสียชีวิตไปอีก 6 คน และตำรวจเสียชีวิตอีก 6 นาย รวม 2 เหตุการณ์มีผู้เสียชีวิต 26 คน ซึ่งการปะทะกันในจุดที่ 2 ก็ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นกลุ่มติดอาวุธกลุ่มเดิมที่ลักลอบหนีออกจากพื้นที่ปิดล้อม หรือเป็นพรรคพวกที่ลักลอบเข้าเมืองเพิ่มมาอีก
ขณะที่ชาวบ้านในเมืองเซ็มปอร์น่าต่างหวาดกลัว และเริ่มอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ทางการยังสั่งปิดที่ทำการ โรงเรียน และร้านค้า แต่ยังไม่เห็นการวางกำลังเพิ่มเติม แม้จะเพิ่งเกิดเหตุเผชิญหน้าขึ้นเมื่อวันเสาร์
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความอับอายแก่รัฐบาลมาเลเซียในช่วงไม่กี่เดือนก่อนการเลือกตั้ง เพราะแสดงให้เห็นถึงความหย่อนยานในการดูแลความปลอดภัยบริเวณพรมแดน ทั้งที่ในอดีต พื้นที่นี้เคยเป็นพื้นที่อ่อนไหว ที่มักมีกลุ่มติดอาวุธจากฟิลิปปินส์ ลักลอบเข้ามาก่อเหตุร้ายถึงขั้นลักพาตัวนักท่องเที่ยวมาแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานความตึงเครียดของทั้ง 2 ประเทศที่เพิ่มมากขึ้น และเริ่มมีการโจมตีทางไซเบอร์ โดยมีรายงานชาวฟิลิปปินส์กลุ่มที่สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธจากซูลู แฮกเว็บไซต์เวิร์ช เอ็นจิ้นกูเกิ้ล ให้ขึ้นผลการค้นหาเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาระบุว่ามาเลเซียครอบครองรัฐซาบาห์อย่างผิดกฎหมาย โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อเกือบ 200 ปีก่อน ขณะที่เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ของฟิลิปปินส์รายงานว่าแฮกเกอร์ของมาเลเซีย ก็โจมตีเว็บไซต์ของฟิลิปปินส์เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ผู้นำของทั้งมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ต่างออกมาเรียกร้องด้วยตัวเอง ให้กลุ่มติดอาวุธออกจากพื้นที่รัฐซาบาห์ แต่ผู้ที่อ้างตัวเป็นสุลต่านซูลูที่เป็นผู้นำของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มดังกล่าว ประกาศว่ากองกำลังของเขาจะสู้ตายเพื่อทวงคืนผืนดินที่เคยเป็นของอาณาจักรซูลู