ผลพิสูจน์ซากช้างป่าแก่งกระจาน พบหัวกระสุนฝังในกะโหลก
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางลงพื้นที่ป่าลำห้วยละเมาะ ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อผ่าพิสูจน์ซากช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 7 ปี ที่ถูกยิงตาย ห่างจากอ่างเก็บน้ำห้วยกะหร่างประมาณ 3 กิโลเมตร
ผลการผ่าสูจน์และการสแกนหาวัตถุในชิ้นเนื้อ พบกระสุนปืนไรเฟิล บริเวณกะโหลกด้านซ้าย และในท้องไม่พบว่า ช้างตัวนี้ตั้งท้อง ส่วนซากช้างหากดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่จะเผาทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
ผช.ผบ.ตร.สั่งให้ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เร่งสืบสวนติดตามลูกช้างที่คาดว่า น่าจะอยู่ในพื้นที่ โดยให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เบื้องต้น ให้เพ่งเล็งไปยังกลุ่มเดิมที่เคยมีประวัติล่าช้าง พร้อมทั้งตรวจเข้มบริเวณจุดทางเข้า-ออกพื้นที่ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งสามารถเดินเท้าเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจานได้
ส่วนช้างป่าอีกตัวหนึ่งที่มีอาการบาดเจ็บ ซึ่งถูกพบเมื่อวานนี้ มีอาการเซื่องซึม เจ้าหน้าหน้าที่ คาดว่า น่าจะเกิดจากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย ขณะนี้ได้ส่งชุดลาดตระเวนออกติดตาม และเน้นเฝ้าดูบริเวณแอ่งน้ำ 2 จุด ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านป่าเด็ง เนื่องจากช้างฝูงนี้ มักไปกินน้ำในบริเวณแอ่งเก็บน้ำเป็นประจำ หากพบเจ้าหน้าที่จะยิงยาสลบเพื่อให้สัตวแพทย์ช่วยเหลือ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องสงสัยชาวกะเหรี่ยง 2 คน พร้อมอาวุธปืนแก๊ปยาวสำหรับใช้ล่าสัตว์ 2 กระบอก ขณะกำลังเดินออกจากป่าห้วยคมกริช -ห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบซากช้างตายไม่มากนัก ทั้งสองคนให้การว่า เข้าไปล่าสัตว์ป่าประมาณ 2 สัปดาห์ แต่เจ้าหน้าที่ ระบุว่า เป็นการเข้าป่าที่นานเกินไปตามวิสัยของการล่าสัตว์ และสันนิษฐานว่าทั้ง 2 น่าจะเป็นผู้ชี้เป้าให้กับผู้ลงมือยิงช้าง
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เชื่อว่า เป็นการยิงแม่ช้างเพื่อเอาลูกไปส่งให้นายทุน ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ส่วนอาวุธที่ใช้สามารถใช้ยิงช้างให้ตายได้ เป็นอาวุธปืนยิงเร็วอานุภาพสูง