วันนี้ (12 มี.ค.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ระบุถึงการเสนอต่อ พระราชกำนหดบริหารราชการภายใต่สถานการฉุกเฉินหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัดชายแดนใต้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่ายังไม่ทราบว่าจะมีการนำเข้าที่ประชุมหรือไม่อย่างไรก็ตามหากมีการนำเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรีก็มีสิทธิ์ที่อนุมัติให้ 5 อำเภอ ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนใต้ เปลี่ยนไปใช้ พระราชบัญยัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯแทน โดยไม่ต้องรอการพูดคุยกับทางมาเลเซีย หากเห็นว่าเหมาะสม เพราะทาง ศูนย์อำนวยการบริหารจัดหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ได้เสนอให้มีการเปรียบเทียบก่อน แต่เบื้องต้นทาง สมช. ได้เสนอให้ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในทุกพื้นที่ เนื่องจากต้องพิจารณาบรรยากาศสถานการณ์ รวมถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ด้วย
ส่วนกรณีที่วันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) เป็นวันครบรอบ 53 ปี การก่อตั้งกลุ่ม"บีอาร์เอ็น"นั้น เชื่อว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้จากที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มบีอาร์เอ็น ต้องการให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯนั้นขอให้รอความชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ทั้งนี้ ในส่วนของทางการไทย ที่จะไปพูดคุยนั้น จะขอให้มีการลดการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ อย่างไรก็ตามหากหลังการพูดคุยแล้วสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็จะยืนยันที่จะเดินหน้าพูดคุย และเจรจาต่อไป
ทั้งนี้เลขาฯ สมช. ยืนยันว่าการลงนามร่วมเจรจาสันติภาพ กับนาย ฮัตซัน ตอยิด นั้นยืนยันว่าได้รับความเห็นชอบจาก สะแปอิง-มะแซ แล้ว จากนั้นเชื่อมั่นว่าเมื่อมีการพัฒนาการพูดคุยถึงระดับที่การไว้วางใจสูงขึ้น ทั้ง 2 คนนี้จะออกมาพูดคุยด้วย อย่างไรก็ตามคาดว่าวันที่ 28 มี.ค.นี้อาจจะจะมีกลุ่มอื่นเข้ามาพูดคุยเพิ่มเติม แต่ถ้ายังไม่สามารถมาไม่ได้ เชื่อมั่นว่าอีกสักระยะ จะสามารถจูงใจให้กลุ่มอื่นๆ เข้ามาพูดคุยได้แต่ก็จะไม่มีการลงนามเจตนารมณ์ใดเพิ่มเติม เพราะมีการลงนามเจรจาความมั่นคงแบบองค์รวมไปแล้ว