ไทเกอร์ วูดส์ ต้องเผชิญมรสุมชีวิตและจบลงด้วยการหย่าร้าง ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นที่ไม่ชนะรายการใดๆ มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2009 รวมทั้งโชคร้ายได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าซ้าย และยังมีปัญหาจนต้องเลิกจ้างแคดดี้คู่ใจ สตีฟ วิลเลียมส์
แต่ปัญหาเริ่มคลี่คลายและสภาพร่างกายกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งทำให้ไทเกอร์เริ่มเข้าสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยม จุดเริ่มต้นที่ดีคือการช่วยทีมสหรัฐอเมริกาคว้าแชมป์เพรสซิเดนท์ คัพ จนกระทั่งมาสู่การปลดล็อกคว้าแชมป์แรกในรอบหลายปีในรายการ เชฟรอน เวิลด์ ชาลเลนจ์ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2011 แม้จะเป็นเพียงรายการพิเศษแต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
กระทั่งปี 2012 แม้ไทเกอร์จะไม่สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ได้ดั่งใจ แต่พญาเสือก็สามารถหยุดช่วงเวลาที่ตกต่ำตลอด 934 วันที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ในพีจีเอทัวร์ลงได้สำเร็จหลังการคว้าแชมป์ อาร์โนล์ด พาลเมอร์ อินวิเตชั่นนัล รายการที่ตัวเองถนัด
จากนั้นไทเกอร์สามารถคว้าแชมป์พีจีเอรายการที่ 2 ในปี 2012 ซึ่งเป็นรายการเดอะ เมโมเรี่ยล ทัวนาเม้นต์ รายการดังกล่าวส่งผลให้ไทเกอร์ทำสถิติคว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ เป็นรายการที่ 73 ในชีวิต เทียบเท่าสถิติของ แจ็ค นิคลอส ตำนานนักกอล์ฟเจ้าของทัวร์นาเมนต์นี้
ก่อนที่ไทเกอร์จะส่งท้ายปี 2012 ด้วยการคว้าแชมป์พีจีเอรายการที่ 74 ของตัวเองในรายการเอทีแอนด์ที เนชั่นนัล พร้อมกับลดช่องว่างระหว่างสถิติตัวเอง และสถิติคว้าแชมป์พีจีเอมากที่สุดตลอดกาลของ แซม สนีด ที่ทำไว้ 82 รายการ
ในปีนี้ (56) เป็นปีที่ไทเกอร์เริ่มเจิดจรัสเพราะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ต้นปี โดยลงแข่งไปแล้ว 5 รายการคว้าแชมป์มาครองได้ถึง 3 รายการ เริ่มจากการคว้าแชมป์ฟาร์มเมอร์ อินซัวแรน โอเพ่น ในเดือนมกราคม ซึ่งไทเกอร์ชนะอันดับ 2 ร่วมขาดลอยถึง 4 สโตรก ก่อนจะมาคว้าแชมป์ WGC คาดิลแลค แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งนั่นทำให้ไทเกอร์มีคะแนนสะสมตามหลัง รอรี่ย์ แมคอิลรอย เหลือห่างไม่ถึง 1 คะแนน
แถมปีนี้ (56)ไทเกอร์ยังมีข่าวดีด้านความรัก ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ไทเกอร์ออกมาเปิดเผยชีวิตส่วนตัวว่าคบหาดูใจกับลินซี่ย์ วอนน์ นักสกีทีมชาติสหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่วงที่อาจทำให้ไทเกอร์มีกำลังใจและมีความสุขมากที่สุดอีกครั้ง
จนกระทั่งในการแข่งขันรายการ อาร์โนล์ด พาลเมอร์ ไทเกอร์คว้าแชมป์ ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 8 และได้ทวงตำแหน่งมือ 1 ของโลกคืนมาได้สำเร็จ หลังจากเขาเสียตำแหน่งไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2010