ตากประชุมหน่วยงานพื้นที่ชายเเดน เเกัปัญหาหมอกควัน หลังพบผู้ป่วยกว่า 8,000 คน
หลายจังหวัดภาคเหนือยังคงเผชิญกับปัญหาหมอกควัน จนเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากขึ้น ล่าสุดผู้ป่วยจากการสูดหมอกควันพิษในจังหวัดน่าน
ทยอยเข้ารักษาตัวอย่างต่อเนื่องโดยเดือนมีนาคมมีผู้ป่วยสูงกว่า 8,000 คน
ประชาชน.จำนวนมากเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาลน่าน ด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยต่างสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค รวมทั้งสูดอากาศที่มลพิษเข้าไปสะสมในร่างกาย หลังหมอกควัน ยังคงถูกปกคลุมพื้นที่ ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลรวมกว่า 8 พัน
คน หรือ เฉลี่ยวันละ 300 คน
นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ระบุว่าปัญหาหมอกควัน ส่งผลกระทบต่อทั้งประชาชนทั่วไป และ ผู้ป่วยเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ และ ภูมิแพ้ จึงเตือนให้ประชาชนรักษาสุขภาพ หากอยู่ในพื้นที่โล่งให้สวมใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงออกกำลังกายกลางแจ้ง หากมีอาการป่วย ให้รีบพบแพทย์ทันที
ส่วนที่จังหวัดเชียงราย ประชาชนเริ่มออกหาซื้อหน้ากากอนามัย เพื่อนำมาใช้ป้องกันมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะประชาชนที่ต้องทำงานในที่โล่ง และใช้รถจักรยานยนต์ เนื่องจากมีอาการแสบตาแสบจมูก ขณะที่ทัศนวิสัยการมองเห็นบางพื้นที่ เห็นไม่เกิน 1 กิโลเมตร เช่นเดียวกับจังหวัดเชียงใหม่ ที่คุณภาพอากาศยังต่ำกว่ามาตราฐานต่อเนื่องมากว่า 1 สัปดาห์ โดยพื้นที่ที่พบจุดความร้อน หรือ ฮอตสปอร์สูงสุด อยู่ในอำเภอแม่แจ่ม อมก๋อย และ กัลยาณิวัฒนา ส่วนมาตราการป้องกัน และ แก้ไขปัญหา ทางจังหวัดได้ใช้ระบบ Social Network ส่งข้อมูลผ่านระบบ Line แจ้งจุดฮอตสปอร์ทุกวัน เพื่อวางแผนแก้ไขตามมาตราการของทางภาครัฐ ล่าสุดนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปเมืองตองยี สหภาพเมียนม่าร์ เพื่อขอความร่วมมือแก้ปัญหาหมอกควัน
ขณะที่นายสุวัฒน์ พรหมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการ พื้นที่ 5 อำเภอชายแดน เพื่อแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า หลังพบว่าในพื้นที่มีจุดฮอดสปอตเพิ่มขึ้นจาก 32 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ เป็น 281 จุดในเดือนมีนาคม และมีป่าสงวนเสียหายไปแล้วเกือบ 600 ไร่ พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่
บังคับใช้กฎหมายกับผู้เผาป่าอย่างเด็ดขาด