จีนเดินหน้ากวาดล้างขบวนการล้มบอล หวังกู้ศรัทธาวงการลูกหนัง
ในช่วงปี 1990 - 2000 วงการฟุตบอลของจีนเติบโตและคึกคักฐานคนดูมีไม่ต่ำกว่า 100-200 ล้านคน ซึ่งในช่วงนั้นจีนเริ่มมีนโยบายในการเตรียมเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก และ ฟุตบอลโลก ซึ่งในปี 2002 จีนสามารถผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ จากนั้นไม่กี่ปีวงการฟุตบอลจีนก้าวเข้าสู่ยุคมืด เพราะการล้มบอลเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย
แม้จะมีการกวาดล้างแต่ในตอนแรกกลับล้มเหลว ซึ่งจับผู้ตัดสินได้เพียงรายเดียวเท่านั้น ฟุตบอลลีกจีนมีการล้มบอลเกือบทุกนัด แฟนบอลแทบไม่ดู และตามมาด้วยการถอนตัวของสปอนเซอร์ในที่สุด
นับตั้งแต่ปี 2010 จีนหันมาเอาจริงเอาจังและสามารถจับผู้เกี่ยวข้องดำเนินคดีได้เป็นขบวนการทุกระดับชั้น นับตั้งแต่จับนายหนาน หย่ง และนาย เซี๊ยะ หย่า หลง อดีตซีอีโอ และอุปนายกสมาคมฟุตบอลในฐานะตัวการในขบวนการล้มบอล การจับ เจ้า เหวิน ชอง ผู้อำนวยการบริษัทาพัฒนาอุตสาหกรรมฟุตบอล ในข้อหาพัวพันการติดสินบน จับอดีตประธานผู้ตัดสิน 2 คน รวมทั้งอดีตผู้ตัดสินฟีฟ่าชั้นนำอย่าง หลิว จุน และ ฮวง จุน จี้
นอกจากนั้นยังมีการจับ เหวิน เชา ฮุย อดีตผู้จัดการทีมชาติจีนชุดใหญ่ และยังมีนักเตะอีกหลายคน รวมทั้งหมด 58 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 33 คนถูกลงโทษจำคุกและห้ามยุ่งเกี่ยวฟุตบอลตลอดชีวิต
สำหรับสโมสรฟุตบอลถูกจับได้ถึง 12 สโมสร โดยสโมสรที่รับโทษร้ายแรงที่สุดคือ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ในข้อหาว่าจ้าง ชานสี กั๊วะ ลี่ ล้มบอลในฟุตบอลลีกปี 2003 ทำให้เซี่ยงไฮ้ได้แชมป์ โดยถูกลงโทษริบแชมป์ ริบเงินรางวัล และปรับ 1,000,000 หยวน หรือ ประมาณ 4400,000 บาท สโมสรที่รับโทษรองลงมา คือ สโมสรเทียนสิน เตอต้า ถูกปรับ 1,000,000 หยวน และถูกตัดแต้ม 6 คะแนนในฤดูกาลนี้ ในจำนวนนี้มีถึง 5 สโมสรที่ถูกยุบทีม
เหตุที่จีนสามารถกวาดล้างขบวนการล้มบอลได้เด็ดขาดเพราะรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์ ให้ความสำคัญโดยมีมาตรการที่น่าสนใจดังนี้
ข้อแรกผ่าตัดสมาคมฟุตบอล นายเหว่ยตี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกคนใหม่ มีการปรับปรุงทีมงาน และส่งผู้บริหารระดับสูง 6 คนไปอบรมทัศนคติในโรงเรียนคุมประพฤติของพรรคคอมมิวนิสตืของจีน
ข้อที่สองใช้มาตรการทางกฎหมายทุกด้าน รวมทั้งใช้มาตรการทางวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์จีน สมาคมฟุตบอลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ กระทรวงป้องกันสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดรับเบาะแสจากประชาชน โดยมีเงินรางวัล และผลประโยชน์จากภาครัฐตอบแทน
ขณะนี้ฟุตบอลซุปเปอร์ลีกของจีนกลับมาสู่ความนิยมได้อีกครั้ง ส่วนบรรดานายทุนเริ่มกลับเข้ามาลงทุนทำฟุตบอลอาชีพ ซึ่งรวมถึงมหาเศรษฐีระดับโลกพากันลงทุนฟื้นฟูวงการฟุตบอลจีนด้วยจำนวนเงินหลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ