นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันตามที่กรมการค้าต่างประเทศ รายงานว่า ได้คืนเงินตามแผนการระบายข้าวในสต๊อกจากโครงการรับจำนำให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ไปแล้ว 110,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าการระบายข้าวในปีนี้จะเป็นไปตามแผน และส่งเงินคืนได้ตามเป้าหมาย 220,000 ล้านบาท
ซึ่งวันที่ 29 มี.ค. นายบุญทรง ลงนามบันทึกความเข้าใจหรือ เอ็มโอยู กับนายมูฮัมหมัด ราซซาค รัฐมนตรีกระทรวงอาหารและการจัดการภัยพิบัติ บังคลาเทศ ว่าด้วยการแก้ไขเอ็มโอยู การซื้อขายข้าวระหว่างรัฐบาลสองประเทศ ที่จะสิ้นสุดในเดือนนี้ โดยต่ออายุออกไปอีก 3 ปี โดยรายละเอียด คือ บังคลาเทศจะซื้อขายข้าวนึ่งไม่เกิน 1 ล้านตันต่อปี จากไทย แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การผลิตข้าวแต่ละประเทศ และระดับราคาซื้อขายตามตลาดโลก
รัฐมนตรีของบังคลาเทศ ระบุด้วยว่า ขณะนี้บังคลาเทศยังมีผลผลิตเพียงพอ และปีที่ผ่านมาได้นำเข้าข้าวจากอินเดีย 300,000 ตัน เพื่อสำรองความมั่นคงด้านอาหาร แต่หากต้องนำเข้าเพิ่มเติมจากกรณีภัยพิบัติ จะต้องเปรียบเทียบราคาของไทย อินเดีย และเวียดนาม
องค์การการค้าโลกกดดันไทยเปิดเผยข้อมูลจำนำข้าว
ขณะที่ในการประชุมองค์การการค้าโลก หลายประเทศทั้งสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป กดดันให้ไทยชี้แจง และเผยแพร่ข้อมูลในโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าโครงการรับจำนำข้าวของไทยขัดต่อหลักปฏิบัติขององค์การการค้าโลก หรือ (WTO) ที่จะไม่อุดหนุนเกษตรกร ทำให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงต้องไม่จำกัดเสรีในการค้า ซึ่งแม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรียนเรื่องนี้ต่อองค์การการค้าโลก แต่ประเทศเหล่านี้ต้องการให้ไทยเร่งชี้แจงโดยเร็ว รวมถึงการระบายข้าว ที่ขณะนี้มีสูงกว่า 10 ล้านตัน