พิจารณาร่างแก้ไข รธน.วันแรก ฝ่ายค้านวอล์คเอาท์
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ วอร์คเอาท์ออกจากห้องประชุม เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับในการทำหน้าที่ของนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภาที่ร่วมลงชื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ คือ ร่างแก้ไข มาตรา 68 และมาตรา 190 เพราะเห็นว่าการทำหน้าที่ควบคุมการประชุมอาจไม่เป็นกลาง
ขณะที่นายนิคมยืนยันว่าจะทำหน้าที่ต่อไป เพราะการใช้สิทธิ์ร่วมลงชื่อในร่างแก้ไขไม่ผิดกฎหมาย หรือข้อบังคับ และยืนยันว่าจะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง
ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กลับเข้ามาทำหน้าที่อีกครั้งเมื่อนายสมศักดิ์ เกีรยติสุรนนท์ กลับมาทำหน้าที่ประธานรัฐสภา โดยสมาชิกรัฐสภา ต่างอภิปรายในหลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 3 ฉบับ โดยนายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา อภิปรายถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 117 เกี่ยวกับที่มา ส.ว. ว่าหากให้ ส.ว.มาจากการเลือกทั้งหมด จะเป็นการสร้างฐานทางการเมือง ทำให้ ส.ว.มีสังกัดพรรค ซึ่งเกรงจะซ้ำรอยคำกล่าวหาว่าเป็นสภาทาส อีกครั้ง จึงควรมี ส.ว.สรรหาไว้ถ่วงดุลอำนาจ เช่นเดียวกับนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่เห็นว่า ควรคง ส.ว. สรรหาไว้ เพื่อถ่วงดุล แต่อาจเปลี่ยนวิธีการสรรหาให้เป็นไปอย่างเป็นอิสระ
น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.พรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 190 เพราะทำให้การร่วมมือกับต่างประเทศ ในหนังสือสัญญาต่างๆ มีความล่าช้า โดยเห็นว่าควรให้อำนาจฝ่ายบริหาร ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารได้ทันที เว้นแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และอธิปไตยที่ควรให้รัฐสภาเห็นชอบ
ขณะที่ในช่วงท้าย นายนิคม กลับมาทำหน้าที่ ทำให้ ส.ส.พรรคประขาธิปัตย์ ที่มารายชื่ออภิปราย ต่างขอสงวนสิทธิ์ที่จะอภิปรายในภายหลัง ก่อนที่การอภิปราย จะยุติลงในเวลา 23.00 น. และนัดหมายที่ประชุมต่อเนื่อง ในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) เวลา 9.30 น.